ภูมิภาค
พิสูจน์นครโบราณที่สาบสูญ "ปราสาทพระธาตุภูเพ็ก"
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

นายสรรค์สนธิ บุณโยทยาน นักพิภพวิทยา จ.สกลนคร เปิดเผยว่า เป็นที่ทราบกันดีในวงการโบราณคดีและผู้ที่สนใจศึกษาประวัติสาสตร์ ว่าอิทธิพลอาณาจักรขอมได้แผ่มายังดินแดนหนองหารหลวงหรือ จ.สกลนคร ในปัจจุบันตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 15 เข้าแทนที่อาณาจักรทรทวารวดีซึ่งอยู่ในดินแดนแถบนี้ ตั้งแต่พุทธศตววรรษที่ 11 อิทธิพลของอาณาจักรขอมมีหลักฐานทางกายภาพได้แก่ตัวเมืองหนองหารหลวง ที่ออกแบบในสไตล์ขอมลักษณะเป็นเมืองสี่เหลี่ยมมีกำแพงและคูน้ำล้อมรอบ กลางเมืองมีปราสาทประธาน (ปัจจุบันคือพระธาตุเชิงชุม) และจารึกภาษาขอมที่ขอบประตูด้านขวามือ พร้อมด้วย "บาราย" (ชื่อปัจจุบัน สระพังทอง) ซึ่งเปรียบเหมือนทะเลศักดิ์สิทธิ์แห่งเขาพระสุเมร ในความเชื่อของศาสนาฮินดูและพุทธนิกายมหายาน ผู้ปกครองชาวขอมแต่ละยุดได้ก่อสร้างปราสาทไว้หลายแห่ง
นอกเหนือจากปราสาทประธานที่อยู่กลางเมือง ได้แก่ปราสาทนารายณ์เจงเวง ปราสาทคุม ปราสาทบ้านพันนา (อโรคยาศาล) และปราสาทภูเพ็กบนยอดภูเขาสูง จากระดับน้ำทะเล 520 เมตร ดินแดนหนองหารหลวงอยู่ภายใต้อิทธิพลขอมจนถึงพุทธศตวรรษที่ 19 และได้ส่งต่อเมืองหนองหารหลวงให้กับอาณาจักรน้องใหม่ชื่อว่า "ล้านช้าง" มีศูนย์กลางอยู่ที่นครหลวงพระบางและนครเวียงจันทร์ พวกเขาได้คัดแปลงปราสาทปรธานจากศิลปะขอมมาเป็นเจดีย์ศิลปะล้านช้างและตั้งชื่อใหม่ว่า "พระธาตุเชิงชุม"
"ตำนานอุรังคธาตุซึ่งเป็นเรื่องราวของนครหนองหารหลวงมีการกล่าวว่าหลังจากสิ้นยุคสมัยของพระยาสุวรรณภิงคารเมืองนี้ประสบกับฝนแล้งติดต่อกันหลายปี ผู้ปกครองนครและบรรดาบ่าวไพร่พร้อมกับพลเมืองได้อพยพกลับไปยังอินทปัตย์นครและปล่อยให้หนองหารหลวงกลายเป็นเมืองร้าง ตำนานนี้น่าจะสอดคล้องกับเรื่องราวของ"ปราสาทภูเพ็ก" ที่สร้างไม่เสร็จมีเพียงฐานรากและผนังของห้องปรางค์ประธาน ถูกทิ้งร้างตากแดดดตากฝนอย่างเดียวดาย บนยอดภูเขาที่เป็นป้าทึบและหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ ตั้งแต่พุทธศตวรรม์ที่ 19 ล่วงมาถึงพุทธศตวรรม์ที่ 25 ในรัชสมัยของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 นักโบราณคดีชาวฝรั่งเศสชื่อเอ็นเตี้ยน อะ โมนีเยร์ (Etienne Aymonier) ได้มาสำรวจโบราณสถานที่เมืองสกลนครและตีพิมพ์ผลงานเป็นภาษาฝรั่งเศสเมื่อปี พ.ศ.2444 ระบุว่าเมืองสกลนครมีประชากรเพียง 300 ครัวเรือน ตั้งถิ่นฐานอยู่รอบๆพระธาตุเชิงชุม แต่ก็ไม่มีการกล่าวถึงชื่อปราสาทภูเพ็กแม้แต่คำเดียว ต่อมาปี พ.ศ.2449 กรมพระยาดำรงราชาชานุภาพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เสด็จมาตรวจราชการที่ จ.สกลนครและมีบันทึกเมื่อวันที่ 15 มกราคม พ.ศ.2449 กล่าวถึงพระธาตุเชิงชุม พระธาตุดุม สะพานขอม และถนนขอมที่เชื่อมจากตัวเมืองไปยังปราสาทขอมที่เรียกชื่อว่า "พระธาตุอรดีมายานารายณ์เจงเวง" แต่ก็ไม่ได้เอ่ยชื่อ"ปราสาทภูเพ็ก"จวบจน พ.ศ.2476 ชื่อ "ปราสาทภูเพ็ก" กลับมาปรากฎในหน้าประวัติศาสตร์อีกครั้ง เมื่อกรมศิลปากรส่งเจ้าหน้าที่มาสำรวจและนำไปขึ้นทะเบียนโบราณสถานเมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2478"
ต่อมาราว พ.ศ.2490 นายเตียง ศิริขันธ์ สส.สกลนคร นำราษฎรขึ้นไปปรับพื้นพื้นที่บริเวณปราสาทให้ดูมีสง่าราศีขึ้น แต่ปราสาทหลังนี้ก็ยังไม่ค่อยได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วไปเพราะดูแล้วเหมือนสิ่งก่อสร้างที่ไม่สมบูรณ์มีเพียงฐานรากและห้องปรางค์ประธาน ผิดกับปราสาทขอมอื่นๆที่กรมศิลปากรให้การซ่อมแชมและปรับแต่ง เช่น ปราสาทนารายณ์เจงเวง ปราสาทคุม และปราสาทบ้านพันนา วันที่ 23 กันยายน พ.ศ.2544 ตนและทีมงานได้สำรวจปราสาภูเพ็กอย่างละเอียดและยืนยันว่าปราสาทหลังนี้หันหน้าไปที่มุมกวาด 90 องศา ตรงกับปรากฎการณ์ดาราศาสตร์ "วิษุวัต" (กลางวันเท่ากับกลางคืน) สอดคล้องกับปฏิทิน "มหาศักราช" ที่อาณาจักรขอมใช้ในยุคโบราณ จึงร็อกปราสาทหลังนี้ว่า "สุริยะปฏิทิน" ซึ่งต่อมาปี พ.ศ.2547 การสื่อสารแห่งประเทศไทยอออกแสตมป์ที่ระลึกในชุด Unseen Thailand โดยมีปราสาทภูเพ็กรวมอยู่ในแสตมป์ชุดดังกล่าว ปัจจุบันปราสาทหลังนี้กลายเป็นจุดสนใจของผู้คนที่มีความเชื่อเรื่องการรับพลังสุริยะโดยมาประกอบพิธีในวันสำคัญของสุริยะปฏิทิน คือ "วสันตวิษวัต 21 มีนาคมาคม"และ "ศารทวินุวัต 23 กันยายน"
นอกจากตัวปราสาทภูเพ็กแล้วทีมงานชมรมอารยธรรมสกลนคร ซึ่งนายสรรค์สนธิ บุณโยทยาน เป็นประธาน ได้ค้นพบสิ่งก่อสร้างอื่นที่เป็นองค์ประกอบของตัวปราสาท เช่น ฝ่ายเก็บน้ำบนภูเขาทำด้วยหินทราย เนินดินลึกลับที่เรียงตัวเป็นเส้นตรงชี้ไปยังมุมกวาด 80 องศาตรงกับราศีเมษและปราสาทลูกที่สร้างได้เพียงฐานรากซ่อนตัวอยู่ในป้า รวมทั้งแหล่งตัดหินและบริเวณไซด์งานที่ น่าจะเตรียมไว้ก่อสร้างปราสาทบริวารกระจายอยู่ทั่วไปบบนเชิงภูเขา เมื่อพิจารณาตามหลักฐานเชิงกายภาพของวัตถุพยานแล้วเชื่อได้ว่าหากทุกอย่างมีการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ตามแผนงานก็น่าจะเป็นนครที่ยิ่งใหญ่ตั้งอยู่บนภูเขา แต่ด้วยการที่ทุกอย่างหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ราว 600 ปี จึงถูกตั้งชื่อว่า "ปราสาทภูเพ็ก นครโบราณที่สาบสูญ" นายสรรค์สนธิ กล่าว
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » ภูมิภาค
Top 5 ข่าวภูมิภาค
![]()
- เปิดหนังสือ "โล๊ะ" ไวยาวัจกรวัดพระธาตุพนม ปปช.ตอบแล้ว ไม่พบหลักฐานกล่าวหา กก.วัดชุดเก่าทุจริต 16 มิ.ย. 2568
- ควันดำทมึนพวยพุ่ง! เพลิงไหม้โกดังร้านขายส่งเจ้าใหญ่ในสุรินทร์ 16 มิ.ย. 2568
- บัสสองชั้นเดือด! รวมตัว 200 คัน ปักหลักอารยะขัดขืนสาย 304 16 มิ.ย. 2568
- ผบก.นครศรีฯ แถลงจับตำรวจเมาขับชนรถ 3 คัน เจ็บสาหัส 1 ราย-ย้ำเอาผิดเด็ดขาด 16 มิ.ย. 2568
- สยองรับอรุณ! กระบะเสียหลักพุ่งข้ามเกาะประสานงาน ดับ 3 ศพ สาหัส 1 ราย 16 มิ.ย. 2568
ข่าวในหมวดภูมิภาค
![]()
กราบขอพร “พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ” วัดใต้ พระเกจิวิปัสสนาสายพระอาจารย์มั่น เมืองอุบลราชธานี 21:16 น.
- จับโจ๋ถีบรถพยาบาลหวังข่มขืน เคยก่อเหตุมาแล้ว 2 ครั้ง 21:04 น.
- ผงะ! เหลือมขนาดเขื่องเขมือบไก่คาตาก่อนเลื้อยหลบในซอกอิฐเชื่อมาให้โชคก่อนหวยออก 20:52 น.
- เคลียร์จบ! สาวร้านซักผ้าถอนแจ้งจับ ร.ต.อ. ยอดหนี้จริงแค่ 6 พัน 20:34 น.
- โค้งผีสิงกลายเป็นสวนศิลป์! คนแห่ขอพรไม่ขาดสาย 19:30 น.