สมุทรสงคราม คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดคดี อดีตรองนายก อบต.คลองโคน จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบและมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน

วันที่ 17 กันยายน 2567 ที่ห้องประชุมชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสมุทรสงครามนางสาวกาญจนา คำสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตราด รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสมุทรสงคราม และผู้เกี่ยวข้องร่วมแถลงว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดคดีสำคัญกรณีจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบและมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน

กรณีกล่าวหา อดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต) คลองโคน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงครามว่าจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองโคน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม

นางสาวกาญจนา กล่าวว่า จากการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินราย อดีตรองนายก อบต.คลองโคน กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองโคน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2564 ซึ่งได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินกรณีพ้นจากตำแหน่งดังกล่าว เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2564 ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ผู้ยื่นบัญชีฯ ไม่ได้แสดงรายการทรัพย์สินของตนและคู่สมรส รวมมูลค่า 25,270,315.92 บาท ประกอบด้วย 1. เงินฝากธนาคาร จำนวน 3 บัญชี รวมเป็นเงิน 34,634.32 บาท 2. ที่ดิน ตำบลคลองโคน อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม จำนวน 9 แปลงรวมมูลค่า 3,350,000 บาท 3. โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง จำนวน 7 หลัง รวมมูลค่า 13,385,681.60 บาท 4. สิทธิและสัมปทาน จำนวน 2 รายการ มูลค่า 8,500,000 บาท
           

ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตราด รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติดังนี้ อดีตรองนายก อบต.คลองโคน จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 และมาตรา 167 ให้ส่งเรื่องไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง และลงโทษทางอาญา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) มาตรา 81 และมาตรา 167 ต่อไป ทั้งนี้ นายมนัส แพทย์จะเกร็ง มีรายได้จากการเพาะเลี้ยงหอยแครงเพื่อจำหน่ายให้แจ้งกรมสรรพากรตรวจสอบและดำเนินการทางภาษีต่อไป

อย่างไรก็ตาม นางสาวกาญจนา กล่าวด้วยว่า การชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช.ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้กล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด