วันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 ที่ห้องทำงานนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี สำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี มีตัวแทนชาวบ้านตองเปรอะ อำเภอสามโคก ได้เดินทางมายืนหนังสือขอความเป็นธรรมแก่ พลตำรวจโท คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เนื่องจากการมทางหลวงได้มีการเวนคืนที่ดินแล้ว ไม่ได้รับความเป็นธรรม จากการสร่างโรงการถนนทางหลวงหมายเลข 3214 หลังจากออกกฤษฎีกา จากนั้นทางกรมทางหลวงก็จะมีการเรียนประชุมผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งทางชาบบ้านในพื้นที่ ม.1 ตำบลสามโคก อำเภอสามโคก ที่ได้รับผมกระทบมีอยู่กว่า 300 คน แต่จากนั้นก็ไม่ได้ รับการเรียกประชุมแต่อย่างใด จึงได้รวมตัวกันมายื่นหนังสือหวังพึ่งท่านนายก อบจ.ปทุมธานีช่วยเหลือ

โดย นาง สุนันทา สุทธิพันธ์ อายุ 65 ปี ชาวบ้านตองเปรอะ อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 28/3 ม. ต.สามโคก อ.สามโคก จ.ปทุมธานี กล่าวว่า ได้รับผลกระทบจากเวนคืนที่ดินจากการสร้างถนนสายนี้ โดยยินดีสละที่ดินแต่ไม่ยินยิมเป็นหนี้เพื่อส่วนรวม เพราะการกำหนดค่าที่ดินที่เวนคืนนั้นมาความต่างจากพื้นที่ข้างเคียงอยู่หลายเท่าตัว เพราะราคาต่ำมากจนไม่สามารถหาซื้อที่อยู่ใหม่ได้ เพราะใช้ราคาซื้อขายบ้านร้างและหนี้เสียในชุมชนทองเปรอะมาเป็นตัวกำหนดราคาเวนคืนที่ดิน ซึ่งคนในชุชมก็ได้ดำเนินการตามกฎหมายตั้งแต่ต้น แต่ทางกรมทางหลงก็ไม่สนใจ และผลักภาระให้กับปรนและศาลปกครอง ทั้งนี้ตนเองเคยได้ร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางอกร่วมกัน วุฒิสภา กรมคมนาคม และรองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี จนมีข้อสรุปว่าให้ประราคาที่ดินเพิ่มให้ แต่ทางกรมทางหลวงไม่ยอมรับเสนอให้ทบทวนใหม่ตลอดเส้นทาง จนผ่านมา 2 ปี กลับบอกว่าตอนนี้กรรมการหมดอายุ ทำอะไรไม่ได้ โดยยื่นข้อเสนอมา 2 ข้อค่อย 1 ให้รับเงิน แล้วไปทำเรื่องร้องเรียนถ้าไม่เป็นผลก็ฟ้องศาล กับ ข้อ 2 ทำหนังสือร้องรัฐมนตรีคมนาคม เพื่อให้รื้อเอกสารและดูโครงการใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้มีชาวบานบางส่าวนไปรับเงินแล้วทำเรืองร้องเรียนขอให้พิจารณาเพิ่มค่าที่ดินแต่ไม่เป็นผลได้เงินเท่าเดิม และต้องไปร้องศาลเอาเอง

ด้าน พลตำรวจโท คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นประมาณสองสัปดาห์ที่แล้วนะ ก็มีพี่น้องประชาชนเนี่ยมาพบนะจากหมู่บ้านตองเปรอะ เนี่ยผมก็ลงไปดูเจอปัญหาเองซึ่งราคามันต่างกันเยอะไปนะครับระหว่างแปลงนี้กับแปลงนี้มันห่างกันนิดเดียวแต่อีกแปลงนึงราคาประเมินสมมุติ 18,000บาท แต่อีกที่นึงเนี่ยประเมิน 50,000 - 80,000 บาท แบบเนี้ยผมว่ามันไม่ได้รับความเป็นธรรมนะ ก็ได้พยายามที่จะประสานไปทางแขวงการทางก็ได้รับคําตอบ มาว่าทุกอย่างมันจบสิ้นตามกระบวนการกฏหมายไปแล้วไปแล้ว เพราะต้องร้องก่อนเ 180วัน แต่พี่น้องประชาชนเขาก็ทําตามกระบวนการเหมือนกัน ร้องไปตังแต่ยังไม่ครบ 180 วัน แต่เมื่อเราลงไปดูแล้วมันไปไม่ได้ราคาเขาไม่ได้ความเป็นธรรมจริงๆ เพราะนั้นเมื่อมายื่นกับผมเนี้ย เราก็จะประสานไปแม้แต่เคยประสานไปทางจังหวัด มีทางเดียวผมต้องพยายามยื่นเรื่องเนี่ยให้ไปถึงท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ครับแล้วขั้นตอนต่อไปถ้ายังไม่ทําอะไรอีกก็ต้องฟ้องศาลปกครองต่อไปให้ศาลคุ้มครองไม่งั้นประชาชน ที่ได้ไม่รับความเป็นธรรมนะอันนี้เราก็จะพยายามทําให้พี่น้องประชาชนเต็มที่นะครับ อันนี้ผมเห็นใจเขานะก็พอลงไปดูพื้นที่เองแล้วนะ