หลวงพี่น้ำฝน นำคณะสงฆ์และเจ้าหน้าที่วัดไผ่ล้อม พระอารามหลวง จังหวัดนครปฐม นำเตียงผู้ป่วยเดินทางไปมอบให้กับชายอายุ 49 ปีซึ่งประสบอุบัติเหตุทางถนนทำให้ได้รับกระทบกระเทือนทางสมองร่างกายไม่สามารถขยับได้อย่างปกติเป็นผู้ป่วยติดเตียง โดยชื่นชมผู้นำชุมชนที่ไม่ทอดทิ้งและรีบแจ้งข้อมูลให้ทราบถึงปัญหาของประชาชน โดยย้ำว่าวัด พระ โยม จำเป็นต้องพึ่งพาเป็นหนึ่งเดียวกันในการทำให้สังคมของเราน่าอยู่

วันที่ 23 พฤษภาคม2568 พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) ผู้รักษาการแทน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม พระอารามหลวง จังหวัดนครปฐม พร้อมคณะสงฆ์และเจ้าหน้าที่ ได้นำเตียงสำหรับผู้ป่วยพร้อมเครื่องยังชีพ เดินทางไปมอบให้กับนายสมร ใจบุญ อายุ 49 ปี ที่อยู่ของผู้ป่วย บ้านเลขที่ 19 หมู่6 ต.ทัพหลวง อ.เมืองนครปฐมจ.นครปฐม ซึ่งนอนพักรักษาตัวหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ได้รับความกระทบกระเทือนทางสมอง ร่างกายมีอาการกระตุกตลอดเวลา ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างสะดวก หลังจากได้รับการประสานจากผู้นำชุมชนในท้องถิ่นเพื่อขอรับเตียงและการช่วยเหลือประสานงานในการรักษา

โดยหลวงพี่น้ำฝน รักษาการแทน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม พระอารามหลวง จังหวัดนครปฐม ได้เข้า ดูอาการพร้อมสอบถามชีวิตความเป็นอยู่และมอบกำลังใจให้กับนายสมร ซึ่งพยายามจะลุกขึ้นมากราบขอบคุณหลวงพี่น้ำฝน ที่นำสิ่งของและเครื่องใช้ที่จำเป็นมามอบให้แต่ด้วยร่างกายที่ยังไม่สามารถควบคุมได้จึงทำให้ไม่สะดวกในการขยับ โดยมีภรรยาและน้องชายคอยดูแลและช่วยทำกายภาพร่างกาย หลังจากประสบอุบัติเหตุมาได้ประมาณสองเดือน และได้กลับมานอนพักรักษาตัวที่บ้าน

หลวงพี่น้ำฝน กล่าวว่า สำหรับกรณีอาการป่วยของนายสมร ถือเป็นผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุทางถนนโดยเมื่อมาพบ รู้สึกว่าอาการค่อนข้างหนักแต่ถือว่ากำลังใจดี โดยกรณีนี้ได้มีการประสานขอความช่วยเหลือมาจากผู้นำชุมชนสมาชิกอบต.ตำบลถ้ำหลวง และกำนันผู้ใหญ่บ้านที่ได้ร่วมกันแจ้งข้อมูล จึงได้เดินทางลงมาตรวจสอบและพบว่ามีอาการป่วยนอนติดเตียงจึงได้รีบดำเนินการนำสิ่งของที่จำเป็นให้ใช้ โดยเฉพาะเตียงสำหรับผู้ป่วยมีความจำเป็นมากกับกลุ่มผู้ที่นอนติดเตียง

"อาตมายังเห็นว่าในสังคมจะต้องมีการช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันซึ่งกรณีนี้ก็ถือว่าผู้นำชุมชนไม่ได้ทอดทิ้งและใส่ใจในการประสานงานหาอุปกรณ์และเครื่องยังชีพมาช่วยให้กับผู้ป่วยและครอบครัวซึ่งวัดไผ่ล้อม พระอารามหลวงก็ยังคงทำหน้าที่ผลักดันโครงการธนาคารเตียงสำหรับผู้ป่วยและรถวีลแชร์ให้กับญาติโยมที่ประสบปัญหาซึ่งสามารถร้องเรียนร้องขอความช่วยเหลือเข้ามาได้ทุกช่องทางหากพบว่ามีปัญหาในการดำเนินชีวิตด้านใดคณะสงฆ์วัดไผ่ล้อมก็จะประสานงานไปยังระดับจังหวัดเพื่อรายงานและประสานความร่วมมือเพื่อช่วยเหลือญาติโยมอีกทางหนึ่ง เป็นการช่วยหน่วยงานทางภาครัฐได้ เข้าถึงการช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่โดยเฉพาะเศรษฐกิจในช่วงนี้ก็ถือว่าวัด พระ โยม ต้องมีความเข้าใจและช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันอันจะเป็นทางนำไปสู่การอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขในสังคมไทยนั่นเอง" หลวงพี่น้ำฝนกล่าวปิดท้าย