วันที่ 20 มิถุนายน 2568 ที่ศาลากลางจังหวัดสกลนคร นายขจรศักดิ์ เบ็ญชัย ทนายความ ตัวแทนชาวสกลนครผู้รักชาติร่วมกันยื่นหนังสือ แสดงเจตจำนงให้นายกรัฐมนตรียุบสภาทันที ซึ่งดานที่ปรากฏตามผ่านชื่อสาธารณะโดยทั่วไป "เรื่องกลิปการพูดดูกระหว่างนายก แพรทองธาร ชินวัตร กับ สมเด็จฮุนเซ็น " ทำให้พี่น้องชาวไทยหลายภาคส่วนที่ได้รับชม รับฟังคลิปดังกล่าว รู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมาก ไม่คิดไม่ฝันว่าคลิปลิปดังกล่าวจะเป็นคลิปคำพูดของนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ที่ชื่อนางสาวเพรทองธาร ชินวัตร คำพูดประโยคว่า "หากท่านฮุนเซ็น ต้องการอะไรก็ขอให้บอกมา หลาน (นางสาวแพรทองธาร)จะจัดการให้ หรือ คำพูดถึง แม่ทัพภาค 2 ว่าเป็นพวกตรงกันข้าม ชอบพูดเอาเท่ห์"

คลิปการพูดคุยดังกล่าวถือว่าเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ว่านางสาวเพรทองธาร ชินวัตร เป็นผู้ขาดความรู้ความสามารถ อ่อนด้อยในทุกด้าน การทำหน้านายกรัฐมนตรีที่พี่น้องชาวไทยได้ฝากความไว้วางใจให้เป็นผู้นำในการรักษาไว้ซึ่งอำนาจอธิปไตย รักษาแผ่นดินไทย ให้คงไว้สืบไปชั่วลูกชั่วหลาน นั้น คงไม่อาจเป็นได้ หากนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร ยังทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป ประเทศไทยสุ่มเสี่ยงที่จะสูญเสียอธิปไตยของชาติ อาจทำให้ต่างชาติมาแบ่งเอาผืนแผ่นดินไทย หรือแบ่งแยกประเทศไทยอออกเป็นหลายส่วนได้

ดังนั้น พี่น้องชาวสกลนครผู้รักชาติ ที่ใต้มายื่นหนังสือแสดงเจตจำนง ให้แก่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ส่งไปให้นายกรัฐมนตรี เพื่อยืนหยัดว่า พวกเรามีความห่วงใยต่อประเทศไทย ว่าหากนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร ยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป อาจทำให้ประเทศเสียประโยชน์อย่างใหญ่หลวง ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียแผ่นดิน ทรัพยากรทางบก ทางน้ำ ทางทะเล ซึ่งเป็นสมบัติชาติ ซึ่งเกิดจากการโง่เขลาเบาปัญญาของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นนายกรัฐมนตรีของไทย พวกเราจะไม่ยอมให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น หากนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร ยังพอมีความสำนึกต่อประเทศไทย และยังอยากให้ประเทศชาติผืนแผ่นดิน ไทยยังอยู่ทรบทุกคารารารนิ้ว ไม่ตกเป็นชาติอื่น ขอให้นางสาวแพรทองธาร ชินวัตร ได้โปรดยุบสภาผู้แทนราษฎร คืนอำนาจให้แก่ปวงชนชาวไทยต่อไป จากตัวแทนชาวสกลนครผู้รักชาติ ซึ่งนายสังสรรค์ อุ่นคำ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสกลนคร เป็นผู้มารับหนังสือ