เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 68 เวลา 10.00 น. นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยในการแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์จังหวัดเชียงใหม่ ถึงการเตรียมความพร้อมรับการท่องเที่ยว ว่าจังหวัดเชียงใหม่มีแคมเปญ “12 เดือน 12 เทศกาล เชียงใหม่ เที่ยวได้ 365 วัน” โดยในช่วงปลายฝนต้นหนาว จะมีการจัดกิจกรรมที่สืบสาน รักษา วัฒนธรรมประเพณี ที่เป็น Soft Power ของเมือง ควบคู่กับการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม จึงกำชับให้ทุกกิจกรรม “มีความเป็นกลางทางคาร์บอน” หากผู้จัดงานไม่สามารถควบคุมได้ จะต้องซื้อคาร์บอนเครดิตมาชดใช้ เพื่อลดปัจจัยการเกิดสาธารณภัย และทำให้เชียงใหม่เป็น “Low Carbon City” โดยตัวเลขการจองของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามายังจังหวัดเชียงใหม่ใหม่ พบว่ามีความคึกคัก จึงขอให้ชาวเชียงใหม่ เตรียมเป็นเจ้าบ้านที่ดี เพื่อสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวที่มาสัมผัส “นครอันเป็นที่สุดแห่งความสง่างามทางวัฒนธรรม”

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ยังเปิดเผยถึงสถานการณ์อุทกภัยในห้วงที่ผ่านมา ว่า ปี 2568 จังหวัดเชียงใหม่ มีปริมาณฝนสูงถึง 1,314.7 มิลลิเมตร มากกว่าปี 2567 ถึง 32 เปอร์เซ็นต์ ที่มีฝน 999 มิลลิเมตร แต่สามารถรับสถานการณ์ได้ พื้นที่เศรษฐกิจในเขตเมือง ไม่เกิดอุทกภัยใหญ่เหมือนปีที่ผ่านมา ซึ่งปัจจัยสำคัญมาจากการขุดลอกลำน้ำปิง ระยะทาง 42 กิโลเมตร ความลึก 2 เมตร อย่างไรก็ตาม พายุคาจิกา ได้สร้างความสูญเสียในพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม บ้านเรือนของประชาชนถูกพัดพาไปจำนวนมาก โดยล่าสุดจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการประชุมและดำเนินการจัดหาที่อยู่อาศัยใหม่ให้ประชาชนแล้ว คาดจะเรียบร้อยภายในต้นปี 2569

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงนี้ที่เชียงใหม่นักท่องเที่ยวจีน,ไต้หวัน,ญี่ปุ่น,เกาหลีใต้,ต่างพากันทยอยมาเที่ยวเชียงใหม่อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะสี่แยกถนนนิมมานเหมินทร์ นักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งยุโรปและจีนพากันเดินย่านเศรษฐกิจอย่างคึกคักและต่อเนื่อง