วันเสาร์ ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 12:55 น.

ภูมิภาค

ยายป่วยมะเร็งหอบสังขาร ร้องโรงเรือนกัญชาเอกชน เดือดร้อนทั้งกลิ่น-เสียง ยื่นหนังสือ 4 ครั้งยังเหมือนเดิม

วันศุกร์ ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 16.26 น.

วันที่ 30 ตุลาคม 2568 บริเวณหน้าโรงเรือนกัญชา ริมถนนทางหลวงแผนดินหมายเลข 22 (นิตโย) บ้านหนองญาติ หมู่ 6 ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม ได้มีชาวบ้านจำนวนหนึ่ง ส่วนใหญ่ปลูกบ้านเรือนอยู่ใกล้กับโรงเรือนแห่งนี้ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากกลิ่นและเสียงนานกว่า 2 ปี 

โดยก่อนหน้านี้ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมากกว่า 1 ครั้ง ประกอบด้วย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม (สสจ.ฯ) เทศบาลตำบลหนองญาติ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครพนม แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข จึงยื่นหนังสือร้องเรียนเป็นครั้งที่ 4 โดยเจ้าหน้าที่นัดให้มารอที่หน้าโรงเรือน เพื่อเข้าร่วมตรวจสอบว่าเป็นไปตามที่ชาวบ้านร้องเรียนหรือไม่ ซึ่งเจ้าของกิจการไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปในภายในโรงเรือนดังกล่าว 

ในจำนวนผู้ร้องเรียน ได้มีนางคำหวา สารีเพ็ง อายุ 78 ปี เป็นผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูก หอบสังขารมาดูการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ด้วย โดยเปิดเผยว่าป่วยด้วยโรคมะเร็งมาปีเศษ รักษาอยู่กรุงเทพฯนานหลายเดือน กลับมาบ้านเพื่อจะได้พักฟื้น กลับต้องมาเจอทั้งกลิ่นและเสียงจากโรงเรือนจนทนไม่ไหว สิ่งที่ต้องการคืออยากให้ยกเลิกกิจการไปเลย

ด้าน นายเฉลิมเกียรติ เมษาคุณ อายุ 55 ปี มีบ้านอยู่ด้านหลังโรงเรือน เป็นผู้ที่ต้องทนทุกข์นานถึง 2 ปี เล่าว่าทุกวันจะได้ยินเสียงคอมเพรสเซอร์แอร์ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งกลิ่นกัญชาโชยมาจนนอนไม่ได้ หน้าต่างทุกบานที่เคยเปิดรับลมก็ต้องปิดสนิท เพราะกลิ่นจะลอยเข้ามาจนเวียนหัว ต้องการให้มีการแก้ไขอย่างจังจริง เป็นไปได้ก็อยากให้ถอนใบอนุญาต เพราะโรงเรือนกัญชาอยู่ติดกับชุมชน

จากการตรวจสอบพบว่าโรงเรือนแห่งนี้ เคยให้เช่าเป็นอู่ซ่อมรถยนต์ ภายหลังเจ้าของอาคารได้ให้นักธุรกิจเช่าทำโรงเรือนกัญชา โดยเป็นลักษณะกึ่งเปิดกึ่งปิด ทำให้ทั้งเสียงและกลิ่นเล็ดลอดออกไปข้างนอก ชาวบ้านละแวกใกล้เคียง จึงกลายเป็นผู้ประสบภัย ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม เคยร้องเรียนหลายครั้ง แต่ยังก็ไม่รับการแก้ไขให้ตรงจุด

นายวัชระ อาสาดี นายกเทศบาลตำบลหนองญาติ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวหลังจากเข้าไปตรวจสอบว่า ชาวบ้านอ้างว่าเคยร้องเรียนถึง 4 ครั้งนั้น บอกทำความเข้าใจก่อนว่าตนเพิ่งได้เข้ามรรับตำแหน่งได้ไม่นาน และเห็นหนังสือร้องเรียนเป็นครั้งแรก จึงมาตรวจสอบข้อเท็จจริง และดูย้อนหลังกลับไป พบว่าไม่ได้ขออนุญาตตั้งเป็นโรงเรือนอย่างถูกต้อง จึงให้เจ้าของกิจการไปพบเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบเรื่องนี้โดยด่วน เพราะตามกฎหมายเทศบาลไม่มีหน้าที่อนุญาตในการประกอบกิจการนี้

ขณะที่นายชูชีพ มณีพรรณ หัวหน้ากลุ่มงานอนามัยสิ่งแวดล้อมและอาชีวะอนามัย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่าตามภาระหน้าที่ของตนจะเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ในส่วนการอนุญาตให้ปลูกกัญชาของเอกชน เป็นหน้าที่ของแพทย์แผนไทย ยอมรับว่ามีกลิ่นกัญชาแรงจริง ส่วนจะมีการเพิกถอนใบอนุญาตหรือไม่ อยู่ในดุลยพินิจของผู้บังคับบัญชา

นอกจากนี้โรงเรือนกัญชาเอกชน จะพบว่ามีปัญหาในเรื่องของเสียงและกลิ่นหลายแห่ง อีกทั้งการออกใบอนุญาตก็ไม่สอดคล้องกับพื้นที่ เพราะส่วนใหญ่ตั้งอยู่ใกล้ชุมชน ทำให้มีผู้ได้รับผลกระทบร้องเรียนอยู่ประจำ แต่เหมือนจะไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
 

หน้าแรก » ภูมิภาค