วันพุธ ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2568 03:59 น.

สังคม-สตรี

จากแบรนด์ไทยสู่หุ้นมหาชน “88TH” เส้นทางความสำเร็จของ “นพรัตน์ มาลัยวงค์” ผู้ก่อตั้งและผู้ขับเคลื่อนองค์กร 88(Thailand) เจ้าของแบรนด์ LYO

วันอังคาร ที่ 07 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 14.43 น.

“ดิฉันไม่ใช่คนเก่งที่สุด แต่เป็นคนที่ไม่เคยยอมแพ้ค่ะ” เสียงของ นพรัตน์ มาลัยวงค์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการบริษัท 88(Thailand) จำกัด (มหาชน) ฟังดูเรียบง่ายแต่หนักแน่น เธอคือผู้หญิงที่พาแบรนด์ไทยเติบโตจากธุรกิจเล็ก ๆ สู่การเป็นบริษัทมหาชนภายใต้ชื่อหุ้น “88TH” และเป็นเจ้าของแบรนด์ดูแลเส้นผมชื่อดัง LYO ที่วันนี้กลายเป็นชื่อที่คนไทยคุ้นหู

สวยตั้งแต่ตื่นยันเข้านอน จาก ver.88 → LYO → HONE

เส้นทางแห่งการลงมือทำของ “นพรัตน์ มาลัยวงค์”

“ก่อนปี 2558 ดิฉันทำธุรกิจนำเข้าเครื่องสำอางจากเกาหลีอยู่ค่ะ ตอนนั้นมองเห็นช่องว่างในตลาดชัดเจน ผู้หญิงไทยต้องการของดีในราคาที่จับต้องได้ ดิฉันเลยตัดสินใจก่อตั้งบริษัท 88(Thailand) และสร้างแบรนด์ของตัวเองชื่อ ‘ver.88’”

ผลิตภัณฑ์แรกของเธอคือ “แป้งดินน้ำมัน” ที่โด่งดังทันที ตามมาด้วยลิปสติก รองพื้น และบลัชออน

“ver.88 สะท้อนความเชื่อของผู้หญิงยุคใหม่ค่ะ ว่าความสวยไม่จำเป็นต้องแพง แต่ต้องใช้แล้วมั่นใจได้จริง”

จุดเปลี่ยนสู่ LYO (ปี 2563)

เมื่อโลกเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วงโควิด–19 ที่ธุรกิจเครื่องสำอางทั่วโลกได้รับผลกระทบหนัก นพรัตน์กลับมองเห็นโอกาสในวิกฤตนั้น

“ตอนนั้นดิฉันไม่รอให้สถานการณ์ดีขึ้นค่ะ เราเริ่มผลิตเจลแอลกอฮอล์ภายใต้ ver.88 เพื่อให้บริษัทยังเดินต่อได้ แต่ในช่วงนั้นเอง ดิฉันได้รู้จักแบรนด์ LYO ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะจากสมุนไพรไทย”

เธอลองใช้ด้วยตัวเองและรู้ทันทีว่า “สูตรดีมาก” แต่ยังไม่ถูกสื่อสารให้คนรู้จักในวงกว้าง

“ดิฉันเห็นศักยภาพของแบรนด์เลยค่ะ จึงขอซื้อมาพัฒนาและต่อยอดต่อจากเจ้าของเดิม เพื่อคงสิ่งที่ดีไว้ และเสริมสิ่งที่ขาดให้สมบูรณ์”

จากนั้นเธอเริ่มปรับแบรนด์ใหม่ทั้งระบบ ตั้งแต่สูตร โลโก้ บรรจุภัณฑ์ ไปจนถึงกลยุทธ์การตลาด โดยยังคงทำงานร่วมกับเภสัชกรเจ้าของสูตรเดิม เพื่อรักษาคุณภาพและเพิ่มเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้าไป

“หนุ่ม–กรรชัย” พาร์ทเนอร์ตัวจริงของ LYO

หนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญของ LYO เกิดขึ้นเมื่อเธอได้ร่วมงานกับ “หนุ่ม–กรรชัย กำเนิดพลอย”

“ตอนที่ติดต่อคุณหนุ่มครั้งแรก ดิฉันแค่คิดว่าอยากได้คนที่สะท้อนภาพลักษณ์ความจริงใจและคุณภาพ แต่คุณหนุ่มบอกตรง ๆ ว่าอยากลองใช้ก่อน ถ้าใช้แล้วดีจริง ค่อยร่วมงานกัน” เธอเล่าพร้อมรอยยิ้ม

หลังจากทดลองใช้แล้วเห็นผลจริง เขาพูดเพียงประโยคเดียวว่า “ผมไม่อยากเป็นพรีเซนเตอร์ แต่อยากเป็นพาร์ทเนอร์”

นับแต่นั้นมา คุณหนุ่ม–กรรชัยจึงกลายเป็นพาร์ทเนอร์ตัวจริง มีส่วนร่วมตั้งแต่การพัฒนาสูตร การสื่อสารแบรนด์ ไปจนถึงการทำตลาดร่วมกัน ซึ่งช่วยให้ LYO เติบโตอย่างรวดเร็วและกลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ Hair Care ที่แข็งแรงที่สุดของไทย

การต่อยอดและขยายพอร์ต (ปี 2564–2567)

หลังจาก LYO ประสบความสำเร็จในกลุ่ม Anti-Hair Loss บริษัทจึงขยายสินค้าอย่างต่อเนื่อง

“เราพัฒนาไลน์ใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม” เธออธิบาย

• LYO Hair Color Shampoo (2565) — แชมพูปิดผมขาวพร้อมบำรุง

• LYO Herbal Series (2567) — สูตรสมุนไพรไทยแท้ เช่น อัญชัน มะกรูด ใช้ได้ทุกวัน

“LYO ตอนนี้กลายเป็นแบรนด์ที่มีสินค้าครอบคลุมครบทุกความต้องการของผู้ใช้แล้วค่ะ”

การก้าวสู่ตลาด Skincare — แบรนด์ HONE (ปี 2565)

จากความสำเร็จของ LYO นพรัตน์ต่อยอดสู่แบรนด์สกินแคร์ภายใต้ชื่อ HONE (โฮน)

“HONE คืออีกด้านหนึ่งของความงาม เป็นแบรนด์ที่ต่อยอดจากสิ่งที่เราทำได้ดีอยู่แล้ว พัฒนาร่วมกับคุณหนุ่มเช่นกัน ใช้สารสกัดธรรมชาติจากเกาหลี เน้นสูตร Anti-Aging สำหรับผู้หญิงที่อยากดูแลตัวเองครบทั้งผมและผิว”

กลยุทธ์การตลาดและช่องทางการขาย

“ธุรกิจความงามต้องเดินพร้อมกันสองขา — คุณภาพของสินค้าและความเข้าใจผู้บริโภค”

นพรัตน์กล่าวอย่างมั่นใจ “เราไม่เคยสร้างแบรนด์จากกระแส แต่สร้างจากข้อมูลจริง เราศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สินค้าใช้ได้จริง เห็นผลจริง และทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ”

88TH ใช้กลยุทธ์การตลาดแบบ 360 องศา ครอบคลุมทั้งสื่อหลัก สื่อออนไลน์ และสื่อดิจิทัลกว่า 19,000 จุดทั่วประเทศรวมถึงช่องทางขายแบบครบทุกมิติ — ห้างสรรพสินค้า ร้านขายยา ร้านทำผม ร้านค้าปลีก ไปจนถึงแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Shopee, Lazada, TikTok Shop, TV Shopping และ Live Commerce

“ลูกค้าสามารถเข้าถึงเราได้ทุกที่ ทุกเวลา เพราะเราเชื่อว่าโอกาสในการขายเกิดขึ้นได้ตลอด 24 ชั่วโมง” เธอกล่าวด้วยรอยยิ้ม

การลงทุนเพื่อคุณภาพ — ซื้อโรงงาน DOK SKIN (ปี 2565)

บริษัทเข้าซื้อโรงงาน DOK SKIN เพื่อควบคุมคุณภาพทุกขั้นตอน ตั้งแต่สูตร การทดสอบ ไปจนถึงบรรจุภัณฑ์

“การมีโรงงานของเราเอง ทำให้สามารถพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ได้ต่อเนื่อง และมั่นใจได้ว่าทุกชิ้นที่ออกจากโรงงานมีมาตรฐานเดียวกันค่ะ”

ตัวเลขที่พิสูจน์การเติบโต

ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา 88TH เติบโตอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง

• ปี 2566: รายได้ 365.08 ล้านบาท / กำไร 25.91 ล้านบาท

• ปี 2567: รายได้ 479.08 ล้านบาท / กำไร 55.77 ล้านบาท

• ครึ่งปีแรก 2568: รายได้ 307.41 ล้านบาท / กำไร 50.45 ล้านบาท

เพียงครึ่งปีแรก กำไรก็เกือบเท่าทั้งปีของปีก่อน — สะท้อนความมั่นคงและศักยภาพในการขยายธุรกิจที่ยั่งยืน

จากเอกชนสู่ตลาดทุน

วันที่ 3 ตุลาคม 2568 บริษัท 88(Thailand) Public Company Limited (88TH)

เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai อย่างเป็นทางการ

เสนอขายหุ้น IPO 59.5 ล้านหุ้น ราคา 5.45 บาทต่อหุ้น รวมมูลค่ากว่า 324 ล้านบาท

และมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดวันแรกสูงถึง 1,158 ล้านบาท

“การเข้าตลาดหลักทรัพย์ไม่ใช่ปลายทาง แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการเติบโตระยะยาวค่ะ ดิฉันอยากให้ 88TH เป็นตัวอย่างของแบรนด์ไทยที่ยืนได้ด้วยคุณภาพ ความโปร่งใส และศรัทธาจากผู้บริโภค”

วิสัยทัศน์ของ “แม่ทัพหญิง”

นพรัตน์ มาลัยวงค์ มองว่า “ธุรกิจที่ยั่งยืนต้องมีทั้งหัวใจและระบบที่แข็งแรง”

เธอวางเป้าหมาย 3–5 ปีข้างหน้าอย่างชัดเจน

“ดิฉันตั้งใจสร้างธรรมาภิบาลที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ ลงทุนต่อเนื่องใน R&D และนวัตกรรมใหม่ ๆ รวมถึง ศึกษาตลาดต่างประเทศ โดยเริ่มจาก CLMV และจีน เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการขยายในอนาคต”

สรุปเส้นทางกว่า 10 ปี

“ดิฉันไม่ใช่แค่ผู้บริหาร แต่เป็นคนที่ลงมือทำในทุกวันจริง ๆ เพราะสิ่งที่พาเรามาถึงวันนี้ ไม่ใช่โชค แต่คือความตั้งใจและความจริงใจต่อผู้บริโภคค่ะ”จาก ver.88 สู่ LYO และ HONE — เส้นทางกว่า 10 ปีของ“นพรัตน์ มาลัยวงค์” คือภาพสะท้อนของแบรนด์ไทยที่เติบโตด้วยความซื่อสัตย์ ความทุ่มเท และหัวใจที่ไม่ยอมแพ้

#88TH #LYO #นพรัตน์มาลัยวงค์

หน้าแรก » สังคม-สตรี