อื่นๆ » คอลัมน์
แม่ลิ้นจี่พาชิม
แม่ลิ้นจี่ : วันศุกร์ ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 18.32 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

แม่ลิ้นจี่พาชิม “บ๊ะจ่างไส้เป็ดย่างทรงเครื่อง” เจ้าแรก..ที่ร้าน “ตี่โภชนา”
แม่ลิ้นจี่พาชิม บ้านเมืองออนไลน์ วันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม 2560
..แม่ลิ้นจี่พาชิม “บ๊ะจ่างไส้เป็ดย่างทรงเครื่อง” เจ้าแรก..
..อิ่มอร่อยฉลองเทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง..ที่ร้าน “ตี่โภชนา”..
หน้าร้านตี่โภชนา ริมถนนสุคนธสวัสดิ์
คุณบพิตร โชว์เป็ดย่างหนังกรอบและบ๊ะจ่างทำใหม่สดทุกวัน
เมนูอร่อยน่าชิม..ประจำสัปดาห์นี้ “แม่ลิ้นจี่” เจ้าเก่าคนเดิมยังคงมีอาหารอร่อยมาแนะนำให้ได้ลิ้มลองกันอีกเช่นเคย และยิ่งช่วงนี้ใกล้จะถึงวัน “ไหว้บ๊ะจ่าง” หรือเทศกาลไหว้ขนมจ่าง หรือเทศกาลตวนอู่เจี๋ย ซึ่งจะตรงกับวันที่ 5 เดือน 5 ตามปฎิทินจันทรคติหรือโหง่วเหว่ยโจ่ว และเป็นประเพณีสืบทอดกันมานานนับพันปีของชาวจีน ก็เลยอยากจะแนะนำร้านขายบ๊ะจ่างรสอร่อยที่เขาทำขายมานานหลายปี นั่นก็คือร้าน “ตี่โภชนา”
ข้าวหน้าเป็ดย่าง หนึ่งในเมนูจานเด่นของที่นี่
พูดถึงอาหารที่เรียกกันว่า “บ๊ะจ่าง” หลายท่านอาจจะมีข้อสงสัยกันว่าประเพณีการไหว้บ๊ะจ่างนั้นมีความเป็นมากันอย่างไร และทำไมถึงต้องเซ่นไหว้กันด้วยบ๊ะจ่าง ก็เลยจะขอบอกเล่ากันเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับการไหว้บ๊ะจ่างเพื่อเป็นเกล็ดความรู้หรืออาจจะทำให้เพิ่มอรรถรสในการกินบ๊ะจ่างขึ้นมาบ้างก็ได้นะคะ ย้อนอดีตไปเมื่อประมาณกว่า 300 ปีก่อนคริสต์ศักราช ซึ่งเรื่องก็มีอยู่ว่า “ชีหยวน” เป็นขุนนางตงฉินที่รักชาติซื่อสัตย์มีคุณธรรม ได้ถูกขุนนางกังฉินกลั่นแกล้งใส่ร้ายจนถูกปลดจากตำแหน่งและถูกเนรเทศออกจากแคว้นฉู่ เมื่อขาดขุนนางผู้จงรักภักดีรัฐฉินจึงถือโอกาสเข้าโจมตีจนแคว้นฉู่ล่มสลาย ชีหยวนซึ่งมีใจรักชาติแต่ไม่สามารถช่วยอะไรได้จึงตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงแม่น้ำเปาะล่อกัง ซึ่งบ้างก็ว่าเป็นแม่น้ำแยงซีเกียง ตายในวันที่ 5 เดือน 5 นั่นเอง
บะหมี่หยกอบขาและปีกเป็ด
เมื่อชาวบ้านรู้ถึงการตายของชีหยวน ต่างระลึกถึงคุณงามความดีจึงได้พากันออกเรือเพื่อตามหาศพของชีหยวน ในขณะที่ออกตามหานั้นชาวบ้านได้เตรียมข้าวปลาอาหารไปโปรยลงแม่น้ำ เพื่อล่อให้สัตว์น้ำมากินจะได้ไม่ไปกัดกินศพของชีหยวน แต่ก็ไม่พบศพ หลังจากนั้นทุกปีเมื่อถึงวันตายของชีหยวนชาวบ้านจจึงนำอาหารไปโปรยลงในแม่น้ำเป็นเวลานานกว่า 2 ปี ต่อมามีชาวบ้านผู้หนึ่งได้ฝันเห็นชีหยวนแต่งกายมาในชุดอันสวยงาม และได้กล่าวขอบคุณชาวบ้านที่ได้นำอาหารไปโปรยให้เพื่อเซ่นไหว้ และได้บอกว่าอาหารนั้นได้ถูกสัตว์น้ำกินเสียหมด ชีหยวนจึงแนะนำให้นำอาหารนั้นห่อด้วยใบไผ่หรือใบจากก่อนจะโปรยลงน้ำ ในปีต่อมาชาวบ้านจึงได้ทำตามที่ชีหยวนแนะนำ หลังจากนั้นชีหยวนได้มาเข้าฝันชาวบ้านว่าได้กินอาหารนั้นมากกว่าแต่ก่อน แต่ชาวบ้านต้องการให้ชีหยวนได้กินอาหารนั้นอย่างอิ่มหนำสำราญจึงได้ถามชีหยวนว่าควรทำเช่นไรดี จึงได้คำแนะนำว่าก่อนที่จะโยนอาหารลงในแม่น้ำให้ห่ออาหารด้วยใบไผ่ และให้ตกแต่งเรือเป็นรูปมังกรไปลอยในน้ำ เมื่อสัตว์ทั้งหลายเห็นจะนึกว่าเป็นของเซ่นไหว้ของพญามังกรจะได้ไม่กล้าเข้ามากิน ประเพณีการไหว้บ๊ะจ่างจึงได้สืบทอดกันมาตั้งแต่บัดนั้น
บ๊ะจ่างอบในตู้สตรีมความดันสูงวันละ 200 ลูก
ได้รับฟังตำนานเล่าขานเกี่ยวกับประเพณีการไหว้บ๊ะจ่างกันพอสมควรแล้ว ทีนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะไปค้นหาบ๊ะจ่างร้านอร่อยลิ้มลองกันดูบ้าง ซึ่งความจริงแล้วช่วงนี้จะมีบ๊ะจ่างขายอยู่หลายแห่ง แต่ก็อยากจะแนะนำให้ลองมาชิมกันที่ร้าน “ตี่โภชนา” ที่เปิดบริการมานานกว่า 20 ปี ซึ่งที่ร้านนี้เขาจะมีอาหารจานเด่นนั่นก็คือ “เป็ดย่างหนังกรอบ” และ “หมูแดงหมักเครื่องจากอินเดีย” นอกจากนี้ก็ยังมีอาหารอีกมากมายกว่า 100 รายการให้เราได้ลิ้มลอง ซึ่ง “แม่ลิ้นจี่” เองก็ได้เคยเขียนแนะนำกันไปแล้วเมื่อ 12 ปีที่ผ่านมา แต่วันนี้เพื่อให้เข้าบรรยากาศของเทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง ซึ่งปีนี้จะตรงกับวันที่ 30 พฤษภาคม 2560 เมนูอร่อยในสัปดาห์นี้ก็เลยจะโฟกัสไปที่ “บ๊ะจ่างไส้เป็นย่างทรงเครื่อง” ซึ่งร้านนี้เขาคิดค้นขึ้นมาเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในประเทศไทย ที่แม้แต่ชาวไทยมุสลิมก็สามารถรับประทานได้ นอกจากนี้ก็ยังมี “บ๊ะจ่างไส้หมูแดงทรงเครื่อง” ให้เราได้เลือกสั่ง ซึ่งเป็นสูตรต้นตำรับที่สืบทอดกันมานานหลายเจนเนอเรชั่นของร้านนี้
บ๊ะจ่างห่อด้วยใบไผ่จากเมืองจีน
“คุณบพิตร จิรสุขานนท์” ภรรยาของเฮียตี่ซึงเป็นเจ้าของร้านได้บอกเล่าให้แม่ลิ้นจี่ฟังว่า บ๊ะจ่างของที่นี่นั้นตนเองจะบรรจงปรุงแต่งรสชาติตามสูตรที่ตกทอดกันมา และในเมื่อร้านตี่โภชนาโด่งดังในเรื่องของเป็นย่างหนังกรอบจึงได้นำมาทำเป็นไส้ของบ๊ะจ่างเจ้าแรกที่อัดแน่นไปด้วยเครื่องปรุงอย่างครบครัน วิธีทำ “บ๊ะจ่างไส้เป็ดย่างทรงเครื่อง” ก็เริ่มต้นจากการนำข้าวเหนียวเขี้ยวงูมาแช่น้ำจนเม็ดข้าวนุ่มเนียน ก่อนนำข้าวเหนียวไปผัดกับน้ำมันใส่ซอสและเครื่องปรุงต่างๆ จนซึบซาบเข้าเนื้อในพักไว้จนคลายความร้อน จากนั้นจึงนำข้าวเหนียวไปห่อใบไผ่ที่ส่งตรงจากเมืองจีน ใส่สารพัแครื่องปรุงที่มีทั้ง ไข่แดงเค็ม ถั่วลิสง แปะก๊วย เห็ดหอมปรุงรส กุ้งแห้ง เผือกกวน เป็ดย่าง (ไม่ใส่กุนเชียง) ห่อใบไผ่เป็นรูปสามเหลี่ยมมัดด้วยเชือกก่อนนำไปนึ่งในตู้สตรีมไอน้ำความดันสูงนานกว่า 2 ชั่วโมง จากนั้นจึงบ่มพักไว้ในตู้นึ่งนานข้ามคืน รุ่งขึ้นก่อนนำมาขายจะนึ่งต่ออีก 30 นาทีเพื่อให้ข้าวอัดแน่นเซ็ตตัว ส่วนถ้าเป็น “บ๊ะจ่างไส้หมูแดงทรงเครื่อง” จะมีส่วนผสมของกุนเชียงตามสูตรต้นตำรับ
เนื้อในอัดแน่นไปด้วยไส้ต่างๆ อย่างครบครัน
ความอร่อยของบ๊ะจ่างร้านนี้จะมีจุดเด่นจากเครื่องปรุงมากมายที่ใส่มาแบบไม่ขี้เหนียวเคี้ยวกินได้เต็มปากเต็มคำ เนื้อข้าวเหนียวสุกนุ่มสัมผัสได้ถึงรสชาติของซอสปรุงรสต่างๆ ที่ซึมซาบอยู่ในเม็ดข้าว หอมฉุนด้วยพริกไทยและกลิ่นอายของใบไผ่ ซึ่งเขาจะขายในราคาแค่ลูกละ 40 บาท เหมาะที่จะหาซื้อไว้รับประทานกันเองหรือไว้ไหว้เจ้า ซึ่งที่ร้านนี้จะมีบ๊ะจ่างขายกันทั้งปีไม่ใช่เฉพาะแต่ช่วงเทศกาล ร้าน “ตี่โภชนา” จะเปิดบริการกันทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. ส่วนวันอาทิตย์จะเปิดบริการถึงเวลา 16.00 น. สถานที่ตั้งของร้านจะอยู่ปากซอยสุคนธสวัสดิ์ 6 ริมถนนสุคนธสวัสดิ์ ใกล้โรงเรียนสตรีวิทยา 2 เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ นอกจากนี้ที่นี่เขายังมีบริการรับจัดอาหารนอกสถานที่ โทรศัพท์สอบถามเพิ่มเติมกันได้ที่ 08-1495-1444 และ 0-2570-9835 ถึง 6
มีทั้งเป็ดย่างหนังกรอบและเป็ดพะโล้ให้เลือกสั่ง
สำหรับวันนี้คงต้องขอแนะนำกันแต่เพียงแค่นี้ แล้วพบกับ “แม่ลิ้นจี่พาชิม ปีที่ 16” ได้ใหม่ในสัปดาห์ต่อไปนะคะ..!
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » คอลัมน์
คอลัมน์ล่าสุด ![]()
“บ้านเมืองพระเครื่อง” โดย อ.เจษ เมืองนนท์
บ้านเมืองพระเครื่อง- “ISPAH 2016 Congress” สร้างเสริมกิจกรรมทางกายเพื่อทุกคน 09:53 น.
- บ้านเมืองพระเครื่อง วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน 2559 09:42 น.
- จัดแสดง วันเดอร์ฟรุ๊ต ไลฟ์สไตล์ ดนตรี และศิลปะ 07:12 น.
- แวะชิม...ก๋วยเตี๋ยวเนื้อนครพนม-ไข่กระทะ-ขนมปังเวียดนาม 08:12 น.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น ซ่อน
1. กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.ทีมงานเว็บไซต์บ้านเมืองขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็น โดยไม่ต้องแจ้งต่อเจ้าของความคิดเห็นนั้น
3. หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@banmuang.co.th
4. ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี