วันศุกร์ ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567 19:56 น.

อื่นๆ » คอลัมน์

บ้านเมืองพระเครื่อง

อ. วันชัย : วันจันทร์ ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2562, 10.11 น.

เซียนพระขาขึ้นอย่าหลงเวลาลงจะไม่เจ็บ “แมน รัตนา” กว่าจะถึงวันนี้ชีวิตต้องสู้

เซียนพระขาขึ้นอย่าหลงเวลาลงจะไม่เจ็บ

“แมน รัตนา” กว่าจะถึงวันนี้ชีวิตต้องสู้

                     

 

♦♦♦ “แมน รัตนา”  นายชัชชัย เกตุเกษม เป็นคนย่านบางประกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร เรียนหนังสือชั้นประถมที่โรงเรียนวัดบางปะกอก และจบชั้นมัธยมที่โรงเรียนรัตนจีนะอุทิศ ตอนเรียนชั้นประถม 5 ชอบไปคลุกคลีอยู่กับผู้ใหญ่ในร้านตัดผมใกล้บ้าน ที่ร้านตัดผมแห่งนี้มีการนำพระเครื่องมาแลกเปลี่ยนซื้อขายกันทุกวัน แม้แต่ช่างตัดผมก็เล่นพระและเคยถามผมว่าที่บ้านมีพระบ้างไหม เอามาแลกไม่ต้องจ่ายค่าตัดผม หลังจากเรียนจบชั้นมัธยมปลายแล้วมีเวลาและโอกาสมากขึ้น แมน รัตนาจะแวะเวียนไปร้านกาแฟและร้านพระเล็กๆย่านนี้ทุกวัน มีอยู่ร้านหนึ่งเปิดตู้เกมส์ แมน รัตนาเป็นคนหนึ่งที่ชอบเล่นเกมส์ ก็จะไปที่ร่านนี้บ่อยกว่าร้านอื่นๆ ที่ร้านเกมส์มีตู้วางพระเครื่องหลวงปู่พริ้ง วัดบางปะกอกเป็นพระบ้านเราไว้เยอะ แมน รัตนา มีความฝังใจศรัทธามาแต่เด็กๆอยู่แล้ว จึงเริ่มสนใจศึกษาหาความรู้จากการดูพระ ดูรูปดูเรื่องราวประวัติพระเกจิดังต่างๆจากหนังสือพระ กระทั่งได้รู้จักกับผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่ง “พี่ใหญ่” ท่านเป็นเซียนพระชอบมานั่งส่องพระซื้อขายพระที่ร้านกาแฟแห่งนี้ คงเห็นว่า แมน รัตนา เป็นเด็กหนุ่มที่สนใจพระเครื่องและชอบพระหลวงปู่พริ้งเหมือนกับท่านซึ่งเป็นคนที่ซื้อพระหลวงปู่พริ้งเก็บสะสมไว้มาก พี่ใหญ่ ได้แนะนำและสอนการดูพระหลวงปู่พริ้งให้ จนกระทั่งสามารถดูได้และซื้อพระหลวงปู่พริ้งวัดบางปะกอกได้เองถือว่าเป็นครูบาอาจารย์

           

 

♦♦♦ สนามพระเครื่องเป็นอีกหนึ่งในแรงบันดาลใจให้ แมน รัตนา ต้องอดทนและเดินให้ถึงปลายทางให้สำเร็จ สนามพระแห่งแรกคือท่าพระจันทร์ ไปเพื่อรู้ดูอย่างเดียว องค์แรกที่ซื้อคือหลวงพ่อพริ้งพิมพ์พระคง องค์ละ 1,500 บาท และลูกอมลูกละ 600 บาท ความมั่นใจยังเกิดผิดพลาดได้เมื่อไปซื้อพระบูชาและพระปิดตาพระเกจิที่เรายังไม่ชำนาญสูญเงินไป 7,000 ถอดใจคิดว่าไม่ใช่ทางของเรา คืนกล้องส่องพระที่พี่ใหญ่ให้มา ไปทำงานบริษัทอยู่นาน 4 – 5 ปี พอมีเงินเหลือเก็บคิดเป็นเจ้าของกิจการเองจึงลงทุนทำธุรกิจเสื้อผ้าอยู่นานอีก 3 ปีได้ผลกำไรเป็นกอบเป็นกำจึงคิดซื้อพระที่ตนเองยังชื่นชอบด้วยการซื้อจากเซียนมีการันตีให้ เป็นพระหลวงพ่อพริ้งวัดบางปะกอกและ หลวงปู่เพิ่มวัดป้อมแก้ว  หลวงพ่ออุ้นวัดตาลกงเป็นต้น ต่อมาธุรกิจเสื้อผ้าเริ่มมีปัญหาขาดทุนจึงเลิกกิจการกลับเข่าสนามพระอย่างจริงจังอีกหน  ไปวัดราชนัดดาพบ “คุณสมัคร วัดราช” ท่านเป็นช่างซ่อมพระมือหนึ่งจึงอยากให้ท่านสอน ท่านบอกอาชีพซ่อมพระคุณต้องดูพระเป็นจึงทำได้

           

 

 

♦♦♦ “แมน รัตนา” บอกต่อว่ามีอยู่วันหนึ่งไปนั่งที่สวนหย่อมใกล้ภูเขาทองวัดสะเกศนั่นแหละมีคนปูผ้าขายพระเครื่องอยู่บนทางเท้าตรงแยกไฟแดงภูเขาทอง คิดในใจว่าเราน่าจะทำแบบนี้บ้าง นำพระที่สะสมไว้ไปวางขายแต่ดูแล้วทาง กทม.คงไม่อนุญาตจึงขึ้นไปหาที่วางขายบนห้างดิโอลสยาม เปิดขายที่นั่นได้ 2 เดือน ย้ายไปเปิดตู้พระที่ฟิวเจอร์ปาร์คบางแคปัจุบันคือซีคอนบางแค ชีวิตดีขึ้นเป็นลำดับมีเงินเก็บกว่า 2 ล้าน ไปเปิดศูนย์พระเครื่องที่เดอะสแควร์บางใหญ่ 4 – 5ปี แมน รัตนายืนยันกับผู้เขียนว่า สนามพระ ตลาดนัดพระเครื่องมีประโยชน์ทำให้เรามีโอกาส พบปะเพื่อน ได้พบคนที่มีความรู้ชำนาญพระเครื่องและมีโอกาสซื้อพระได้ในราคาที่เราพอใจ แม้กระทั่งงานประกวดพระก็เช่นกัน

           

 

♦♦♦ ปัจจุบันแมน รัตนา” เปิดร้านพระเครื่องอยู่ที่พันธุ์ทิพย์งามวงศ์วาน ชั้น 2  เปิดบริการ 2 ปีกว่าแล้ว ในฐานะที่มีความเชี่ยวชาญชำนาญพระหลวงพ่อพริ้งวัดบางปะกอกจึงได้รับการแต่งตั้งจากสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทยให้เป็นกรรมการรับตัดสินพระโต๊ะหลวงพ่อพริ้ง แมนยังมีความชำนาญพระเครื่องพระคณาจารย์ทั่วไปทั้งเนื้อดิน เนื้อชิน และเหรียญอีกด้วย ยินดีให้คำปรึกษารับซื้อพระทุกประเภทโทร. 081 – 2696646 Facebook แมน รัตนา กลุ่มคนรักหลวงพ่อพริ้ง

           

 

 

♦♦♦แมน รัตนา ให้ข้อคิดเตือนใจวัยรุ่นที่สนใจใฝ่รู้ก้าวเข้าสู่วงการพระเครื่องเดินบนถนนสายนี้ที่เรียกว่า “อาชีพเซียนพระ” “วงการพระเครื่องขึ้นเร็วลงเร็ว หาเงินง่าย เวลาขึ้นอย่าหลง เวลาลงจะได้ไม่เจ็บตัว”