“อ.แหม่ม” เกณิกา เสตะปุระ เปิดตำนานพระกริ่งปวเรศ & เปิด course พระกริ่งไทย

♦♦♦ หลายคนเป็นศิษย์ “อ.แหม่ม” หลายคนรู้จักท่านในสายบุญ “สายมูเตลู” ท่านเป็นหนึ่งในผู้ชื่นชอบสายมูและมีศรัทธาศึกษาพระกริ่งปวเรศอย่างจริงจังมานานนับสิบๆปี บ้านเมืองออนไลน์จึงขออนุญาติสัมภาษณ์ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อนักสะสมพระเครื่องโดยเฉพาะพระกริ่งปวเรศที่อาจศึกษามาถูกทางบ้างไม่ถูกทางบ้าง “อ.แหม่ม” เกณิกา เสตะปุระ เป็นผู้ศึกษาค้นคว้าจากหลายตำราโดยเฉพาะประวัติของวัดบวรนิเวศทำให้วิเคราะห์ได้ว่า “พระกริ่งปวเรศ” ไม่ได้สร้างไว้แค่ 30 องค์เท่านั้น

 

♦♦♦ “อ.แหม่ม” เกณิกา เสตะปุระ เป็นคนกรุงเทพ บิดาเคยบวชเรียนนานกว่า 10 ปีท่านชอบสะสมและศึกษาพระเครื่องจึงเป็นผู้มีความรู้ด้านพระเครื่องทั้งพระกรุพระเกจิคณาจารย์จัดว่าคุณพ่อเป็นเซียนพระคนหนึ่งและท่านเป็นผู้ดูแลพระเครื่องให้เจ้าสัวรายหนึ่งในอดีตท่านเสียชีวิตไปแล้ว อ.แหม่มได้เห็นคุณพ่อส่องพระเครื่องมาตั้งแต่เด็กและมีหนังสือพระกองโตอยู่ข้างๆ ท่านใช้ประกอบการศึกษาหาความรู้จึงดูพระเก่ง คุณพ่อยังให้พระปิดตาหลวงพ่อทับวัดทองมาแขวนใช้ติดตัวไปโรงเรียนจนกระทั่งเรียนจบ

 

 ♦♦♦ หลังเรียนจบได้เปิดร้านขายเครื่องสำอาง จึงพอรู้ว่าการค้าขายควรจะมีวัตถุมงคลเสริมสร้างกำลังใจเพื่อทำให้การค้าขายดีมีกำไร ทำให้สนใจไปวัดสามง่าม หรือวัดหลวงพ่อเต๋ คงทอง พระเกจิดังในยุคนั้นได้บูชานางกวักหลวงพ่อเต๋ คงทอง มีความรู้สึกว่าค้าขายดีทำให้เชื่อและศรัทธา สายมูเตลู มากขึ้น ในวันทำบุญเปิดร้าน พระสงฆ์รูปหนึ่งท่านทักว่าโยมมีองค์เทพ มีองค์พระพิฆเนศ องค์แม่อุมาเทวี ตอนแรกๆก็เชื่อจึงได้ไปไหว้พระแม่อุมาเทวีที่วัดแขก ย่านสีลม ต่อมาน้ำท่วมใหญ่ในกรุงเทพฯ ปี พ.ศ.2538 ต้องปิดร้าน

 

 ♦♦♦ “อ.แหม่ม” เกณิกา กล่าวว่าช่วงปี 2540 ช่วงฟองสบู่แตก ได้ตัดสินใจเปิดร้านขายเครื่องสำอางอีกครั้งที่ตลาดถนอมมิตร วัชรพล  คุณตุ๊กตา น้องสาวซึ่งเป็นคนสนใจและชื่นชอบสายมูอยู่แล้วได้ชวนไปทำบุญไหว้พระที่วัดหนองผักชี หรือวัดราษฎร์นิยมธรรมในปัจจุบัน ไปกราบหลวงพ่อสูงหรือพระครูเวทวิศิษฏ์ เป็นพระที่มีความสูงที่สุดในเอเชีย เป็นนักบวชที่สูงที่สุดในโลก สูงถึง 2.32 เมตร หลวงพ่อสูงมองหน้าและบอกให้คิดดี ทำดี ไว้นะโยม เรายังดวงไม่ดีมีเคราะห์กรรมอยู่แต่โยมเป็นคนพูดเก่งพูดจาไพเราะ หลวงพ่อสูงได้ลงสาลิกาลิ้นทองให้ กำชับไม่ให้พูดคำหยาบ หรือพูดใส่ร้ายผู้อื่น แม้กระทั่งห้ามถ่มน้ำลายใส่โถส้วม หลวงพ่อสูงได้ให้เหรียญหลวงพ่อดำ รูปพระประธานในโบสถ์ปี 2485 ตั้งแต่นั้นมาก็ชื่นชอบพระเครื่องเริ่มศึกษาหาความรู้จากหนังสือพระเครื่องเล่มหนึ่งของอาจารย์ มัตตัญญู เป็นหนังสือเกี่ยวกับวังหน้า หนังสือปวเรศของ อ.พินิจ สุริยบุตรและหนังสือเกี่ยวกับพระกริ่งปวเรศอีกหลายเล่ม โดยเฉพาะหนังสือประวัติวัดและตำนานวัดบวรนิเวศ ประวัติสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ สมเด็จพระสังฆราชไทยองค์ที่ 8  แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

 

♦♦♦ “อ.แหม่ม” กล่าวต่อไปว่า กว่า 10 ปีแล้วได้พบและรู้จักกับเพื่อนพ่อแฟนตอนที่พบกันอายุท่านก็ 80-90 ปีแล้ว มีงานทำบุญเทศกาลสงกรานต์ที่วัดบวร ท่านได้เล่าให้ฟังถึงการสร้างพระกริ่งปวเรศวัดบวรและท่านยังนำพระกริ่งที่ห้อยติดตัวมาเป็นพระประจำตัวท่านให้ชมด้วยจึงรู้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่า พระกริ่งปวเรศไม่ได้สร้างแค่ 30 องค์เท่านั้น การศึกษาพระกริ่งปวเรศนั้น อ.แหม่ม ยืนยันว่าสนใจศึกษาค้นคว้ามากว่า 28 ปี และมีโอกาสได้เขียนหนังสือเล่มหนึ่ง ชื่อ “เปิดตำนานพระกริ่งปวเรศ” มีวางจำหน่ายอยู่ทุกวันนี้ มีนักสะสมพระเครื่องสนใจสอบถามกันมามากจึงได้เปิดคอร์สอบรมเกี่ยวกับพระกริ่งปวเรศเนื่องจากเห็นว่าผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับพระกริ่งปวเรศมีน้อย และอาจรู้ถูกๆผิดๆ

 

♦♦♦ การศึกษาพระกริ่งปวเรศต้องหาความเชื่อโยงจากประวัติศาสตร์ อ.แหม่ม กล่าวอีกว่า การศึกษาหาความจริงเรื่องการสร้างพระกริ่งปวเรศนั้นต้องศึกษาโดยการเชื่อมโยงจากประวัติศาสตร์โดยตรง สามารถเปรียบเทียบข้อมูลร่วมกันกับประวัติศาสตร์ของวัดบวรนิเวศฯ และประวัติการสร้างพระกริ่งปวเรศสมัยสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ไปพร้อมกันด้วย

 

 ♦♦♦ การที่อาจารย์แหม่มทำหนังสือ เปิดตำนานพระกริ่งปวเรศ และจัดคอร์สอบรมขึ้นมาเพื่อเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับท่านนักสะสมพระเครื่องและท่านที่สนใจสะสมพระกริ่งปวเรศ สอบถามอบรมการศึกษาพระกริ่งปวเรศ ปัจจุบันเปิดมาหลายรุ่นแล้ว ติดต่อสอบถาม โทร.087-9705064 , Facebook Fanpage : เปิดตำนานพระกริ่งปวเรศ, YouTube และ Tik Tok : เปิดตำนานพระกริ่งปวเรศ