บดินทร์ คำจ่า “อมตะพระสยาม” ผู้จัดการแบงค์สู่วงการพระเครื่อง

 

 

♦♦♦ “บดินทร์ คำจ่า” หรือ ป๋อง อมตะพระสยาม หนึ่งในเซียนพระน้ำดีของวงการพระเครื่องเมืองไทย ชื่นชอบสะสมพระกันทั้งตระกูล จากรุ่นสู่รุ่น โดยเฉพาะบิดาเป็นนักสะสมพระเครื่องที่เป็นต้นแบบให้ “ป๋อง อมตะพระสยาม” มีความฝันที่เป็นความจริงได้ไม่ยาก จากพนักงานธนาคารไต่เต้าขึ้นสู่ตำแหน่งผู้จัดการธนาคาร ความชื่นชอบพระเครื่องมาแต่เด็กฝังใจไม่ลืมเลือนเตือนใจให้เก็บสะสมพระเครื่องอย่างต่อเนื่อง กระทั่งลาออกจากธนาคารเข้าวงการพระเครื่องอย่างเต็มตัว วันนี้ ป๋อง อมตะพระสยามทำได้ และประสบความสำเร็จมีอาชีพที่ตนเองชื่นชอบมาแต่เยาว์วัย

 

 

♦♦♦ “ป๋อง อมตะพระสยาม” เป็นคนจังหวัดน่านมีดีกรีปริญญาบริหารธุรกิจการตลาด คุณพ่อเป็นนักสะสมพระเครื่องชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในวงการพระเครื่องจังหวัดน่านสมัยเมื่อ 30-40 ปีก่อน คุณลุง คุณอา คุณน้า คุณปู่ ต่างชื่นชอบสะสมพระกันทั้งตระกูลทำให้ “ป๋อง” ได้เห็นได้ยินได้ฟังเรื่องราวของพระเครื่องทั้งพุทธคุณล้ำเลิศ ความศักดิ์สิทธิ์ มีอิทธิปาฏิหาริย์สารพัดดี จึงซึมซับเรื่องดังกล่าวมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก อายุราว 13-14 ปี ไปบ้านเพื่อนได้รับความเมตตาจากผู้ใหญ่ให้ความเอ็นดู ได้พระเครื่องจากพ่อของเพื่อนมาเก็บไว้หลายองค์ จำได้ว่ามีหลวงพ่อทวดองค์หนึ่งด้วยครับ 

 

 

♦♦♦ หลังจากจบจากโรงเรียนชั้นประถมที่ จังหวัดน่าน เข้ากรุงเทพมหานคร เรียนต่อชั้นมัธยมที่โรงเรียนบางมดวิทยา จบชั้นมัธยมปลายแล้วจึงได้เข้ามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงมีโอกาสไปสนามพระเครื่องท่าพระจันทร์ ที่เล่าลือกันว่าเป็นตักศิลาของวงการพระเครื่อง และยังได้ไปตามตลาดพระเครื่องอีกหลายแห่ง เป็นต้นว่า ตลาดพระพญาไม้ใต้สะพานพุทธยอดฟ้าฯ และตลาดนัดสนามหลวง ริมคลองหลอดได้เช่าบูชาพระเครื่องที่ชอบตามมาเก็บสะสมไว้ 

 

 

♦♦♦ “ป๋อง อมตะพระสยาม” บอกด้วยว่า ขณะเรียนอยู่มหาวิทยาลัยมีเพื่อนที่ชอบพระเครื่องหลายคนได้พากันไปเยี่ยมบ้านเพื่อนๆ คุณพ่อเพื่อนยังให้เหรียญกรมหลวงชุมพร-หลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่า ภายหลังได้มาขอคืนไป ช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพ นี่แหละครับที่ทำให้ผมมีโอกาสได้ศึกษาหาความรู้เรื่องพระเครื่องอย่างจริงจังจากนิตยสารพระ ตำราพระเครื่องหลายเล่มได้รู้ถึงประวัติและพุทธคุณของพระเครื่องหลากหลายชนิดทั้งพระเหรียญ พระกรุ พระเกจิคณาจารย์ที่โด่งดังในยุคนั้น แต่ก็ยังไม่สามารถแยกแยะได้ว่าดีหรือไม่ดีถ้าชอบก็เช่าบูชามาเก็บไว้

 

 

♦♦♦ หลังจากรับปริญญาแล้ว ได้ไปทำงานเป็นพนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง ไม่ไกลจากสนามพระท่าพระจันทร์ พนักงานธนาคารส่วนใหญ่เล่นหาเช่าบูชาซื้อขายพระเครื่องจึงมีโอกาสได้เข้ากลุ่มได้เห็นการซื้อขายพระเครื่อง ได้ฟังประสบการณ์จากผู้ใหญ่ในวงการธนาคาร ทำให้ “ป๋อง” เปิดมุมมองของวงการพระเครื่องมากขึ้น เริ่มมีการซื้อขายพระเครื่องให้พนักงานธนาคารทำให้มีรายได้ ประจวบกับ ปี 2549-2550 เป็นช่วงที่องค์พ่อจตุคามรามเทพมาแรง จึงซื้อขายจตุคามรามเทพให้บุคลากรในธนาคารด้วยกัน ทำให้มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ

 

 

♦♦♦“สนามพระท่าพระจันทร์” เป็นที่หมายหลักในการเข้าไปศึกษาหาความรู้เรื่องพระเครื่อง ในฐานะนายธนาคารทำให้ได้รู้จักกับผู้ใหญ่ในวงการพระเครื่องที่มีชื่อเสียง ท่านเมตตาชี้แนะสิ่งที่เราอยากรู้ให้ดูพระเครื่องที่เราอยากเห็น ทำให้ได้เห็นพระแท้ที่มีการซื้อขายกันจริง ได้ความรู้ดูตำหนิพระแท้ จุดตายก่อนจ่ายเงิน ศึกษาจากผู้รู้จริงในสนามพระท่าพระจันทร์แล้วเห็นว่า “วงการพระเครื่องเป็นธุรกิจทำรายได้”  กลุ่มลูกค้าของธนาคารที่เป็นเซียนพระมีเงินหมุนเวียนสูง มาทำธุรกรรมการเงินทุกวัน ทำให้ “ป๋อง” มีความสนใจธุรกิจนี้มากขึ้นไปอีก

 

 

♦♦♦ “ป๋อง อมตะพระสยาม” ตัดสินใจลาออกจากธนาคาร แม้จะมีตำแหน่งเป็นถึงผู้จัดการธนาคารแล้วก็ตาม เปิดร้านพระเครื่อง ชื่อ “อมตะพระสยาม” อยู่ที่ศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน ชั้น 3 สานต่อความคิดที่ตนเองชื่นชอบพระเครื่องมาตั้งแต่เด็กๆ ปัจจุบันมีความเชี่ยวชาญชำนาญพิเศษพระหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ และพระยอดนิยมในวงการทุกประเภท เชิญแวะชมวัตถุมงคลยอดนิยมได้ที่ร้าน อมตะพระสยาม โทร.082-1146615, Facebook : บดินทร์ อมตะ พระสยาม,  Facebook Page : ร้านพระเครื่อง อมตะ พระสยาม,  Line ID : amata666999