วันศุกร์ ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567 18:33 น.

อาชญากรรม

ถามหลวงพี่ตีนโหด! พ่อรู้อะไร? ถึงกระทืบจนดับ

วันพฤหัสบดี ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2561, 15.30 น.

 

 

ถามหลวงพี่ตีนโหด!
พ่อรู้อะไร? ถึงกระทืบจนดับ!

       


ลูกสาว พร้อมแม่ วอนผ่านสื่อ ฝากถามผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหนองเสือ ผู้ตายพูดอะไรที่เป็นความลับ ถึงขั้นลงไม้ลงมือทั้งชกทั้งเตะปลายคางจนอดีตศิษย์ก้นกุฎิ เจ็บหนักและเสียชีวิต หวั่นหลุดคดีเพราะเป็นพระชั้นผู้ใหญ่มีแม่ยกฝากตัวเป็นศิษย์เพียบ

               


วันนี้ 13 กันยายน 2561 ผู้สื่อข่าวรายงาน กรณีที่ นางสาวอรุณี กระแสโสม อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 207 หมู่ 3 ตำบลหนองดินแดง อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม ได้โพสต์เฟสบุ๊คและร้องเรียนผ่านสื่อ หลังจากบิดาคือนายย้อย กระแสโสม ได้ถูกพระมหาศิขริน สุขิตโต หรือนายศิขรินทร์ เวียนประโคน อายุ 39 ปี อยู่เลขที่ 189 หมู่ 11 ตำบล จรเข้มาก อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ มีตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหนองเสือ อ.เมือง จ.ปฐม ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมาหลังจากนอนพักรักษาอาการที่โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม เมื่อเวลา 21.42 น. ของวันที่ 11 กันยายน ที่ผ่านมา

               

โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เมื่อวันที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมา พระมหาศิขริน สุขิตโต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหนองเสือ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มจากทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บเป็นทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ก่อนนำตัวส่งไปผัดฟ้องฝากขังยังศาลจังหวัดนครปฐมในเวลา13.40 น.วันเดียวกัน โดยมีมาตรฐานยกซึ่งเป็นฆราวาสที่มาด้วยติดตามไปยื่นประกันตัวที่ศาลจังหวัดนครปฐม ต่อมาศาลได้ให้ประกันตัวออกไปด้วยวงเงิน 1.8 แสนบาท

 

               

นางสาวอรุณี กระแสโสม อายุ 32 ปี เผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากเกิดเหตุการ์ขึ้นก็ได้ลำดับเหตุการณ์จากที่มารดาได้โทรมาบอกว่านายย้อย บิดาถูกพระทำร้ายร่างกายที่วัดหนองเสือตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน ที่ผ่านมา ก่อนหน้านั้นก็ได้ทราบว่า พระมหาศิขริน ได้เป็นผู้ลงมือก่อเหตุและได้สารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งตนเองได้สอบถามสาเหตุว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ทางพระลูกวัดและสามเณรได้ บอกว่าก่อนที่จะมีการลงมือ พระมหาศิขริน ได้เรียกบิดาไปคุยที่ หลังเมรุวัด และไม่พอใจที่นำเรื่องอะไรสักอย่างไปบอกญาติโยม ก่อนจะมีการทำร้ายกันและบิดาถูกนำส่งโรงพยาบาล ด้วยอากาบาดเจ็บสาหัส ซึ่งนับตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ พระมหาศิขริน ได้มีการเข้ามาเจรจาต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีแม่ยกติดตามาด้วยหลายคนและโต้เถียงกันไม่ลงตัวโดยไม่ได้มีการพูดคุยกันอีก ซึ่งตนบอกว่าให้เจรจากันให้เข้าใจหากบิดาอาการหนักมากถึงเสียชีวิตคงจะคุยไม่ได้เพราะเหตุกาณ์คือมีคนตายแล้วต้องเป็นไปตามกฎหมาย

               

นางสาวอรุณี บอกว่า นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ตนเองก็ยังไม่ได้รับการติดต่ออะไรกับมาอีกแล้ว โดยอยากจะถามกลับไปว่า ตัวเองเป็นพระทำไมถึงได้มี่ความโหดร้าย ไม่มีหลักธรรมอยู่ในใจบ้างทำไมต้องทำร้ายพ่อจนถึงต้องทำให้เสียชีวิต ซึ่งปกติพ่อก็ชอบที่จะไปอยู่วัดช่วยงานพระและเป็นลูกศิษย์ของพระที่ลงมือทำร้าย แต่วันนี้กลับไม่พูดอะไรออกมาเลย โดยอยากจะถามว่าทำไมถึงทำแบบนี้และเป็นเพราะเรื่องอะไร โดยตอนนี้ก็ขอให้เป็นเรื่องของกฎหมายว่าจะเป็นไปอย่างไร แต่ก็หวั่นว่าจะไม่ถูกดำเนินคดีเพราะเป็นพระระดับชั้นผู้ใหญ่ กลัวว่าพ่อจะตายฟรีไม่ได้รับความเป็นธรรม

 

               

ด้าน นางเล็ก จันทร์ศรี อายุ 51 ปี อดีตภรรยาของนาย้อย มารดาของ น.ส.อรุณี บอกว่า ครั้งแรกที่ได้ยินเรื่องคือมีคนที่วัดได้โทรไปบอกว่า อดีตสามีถูกพระทำร้ายจนเลือดออกปาก เยี่ยวราด จึงได้บอกให้ลูกสาวไปดู จากนั้นเมื่อไปดูที่โรงพยาบาลเห็นอาการหนักมาก จึงได้สอบถามไปยังเจ้าอาวาส ซึ่งได้รับคำตอบที่เสียใจมากคือบอกให้แจ้งความเอาปผิดเอาเอง โดยส่วนตัวตนเองรู้ว่า อดีตสามีนั้นมีความผูกพันกับวัดหนองเสือ เพราะเคยบวชมา 2 ครั้งก่อนจะสึกมาช่วยเป็นเด็กวัดเพราะเขาบอกว่าได้บุญ โดยได้รับใช้เจ้าอาวาสองค์เก่ามานานจนถึงมรณภาพ ซึ่ง พระมหาศิขริน เพิ่งมาที่วัดนี้ได้ 1 ปีเศษ อดีตสามีก็ช่วยดูแลเป็นลูกศิษย์กัน ก่อนจะมาเกิดเหตุซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่ามาจากสาเหตุไหน แต่ที่ยังคาใจคือคำว่า มึงได้เอาเรื่องไปบอกญาติโยมหรือไม่ ซึ่งนายย้อย ได้บอกว่าไม่ได้พูด ก็ถูกพระมหาศิขริน ชกจนล้มลงและเตะเข้าที่ปลายคงจนเซไปมา พระรูปหนึ่งบอกว่าให้ไปกินข่าวและยานอน นายย้อยก็ทำตาม ก่อนจะมาพบว่านอนเลือดไหลออกหูและออกปาก จนพระต้องนำปส่งโรงพยาบาลและถึงตาย

               

นางเล็ก บอกอีกว่า อดีตสามีเคยมาบ่นให้ฟังเรื่องบางอย่างภายในวัด และตนเองก็บอกว่าอย่าพูดไปเดี๋ยวจะเกิดอันตราย ซึ่งนายย้อยก็บอกว่าไม่ได้บอกใคร ซึ่งไม่นานก็มาโดนทำร้ายจนตายถามว่าคนเป็นพระทำแบบนี้ได้ไหม ทำไมเป็นคนอยู่ในศาสนาถึงได้โหดร้าย ขนาดสัตว์ยังมี พรบ.คุ้มครอง แต่นี่คืออะไร ทำตัวเหมือนไอ้พวกผ้าเหลืองห่มตอ คือพวกที่เป็นคนเลวมาอาศัยในคราบผ้าเหลือง และยิ่งเจ็บใจที่ถมไปยังเจ้าอาวาสกลับถูกพูดจาด้วยน้ำเสียงถากถางว่า ให้โยมไปแจ้งความเอาเลย ไปแจ้งได้เลย นี่คือเจ็บใจมากกับสิ่งที่ได้รับ

               

โดยหลังจากที่มีการจัดการนำศพของนายย้อย มาทำการสวดพระอภิธรรม ที่วัดหนองดินแดง ซึ่งไม่ได้นำไปไว้ที่วัดหนองเสือ ซึ่งเป็นวัดที่นายย้อยผูกพันมานาน เนื่องจากทางญาติ ยังทำใจได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งรวมไปถึงกับความหวาดกลัวกับแม่ยก ของพระมหาศิขริน ที่อาจจะเข้ามาปั่นป่วนในงาน ซึ่งทางญาติหลายคนต่างตั้งข้อสงสัยว่าเรื่องที่ทำให้พระมหาศิขริน ไม่พอใจถึงขั้นทำร้ายจนเสียชีวิต

               

สำหรับ พระมหาศิขริน เป็นพระระดับผู้ช่วยเจ้าอาวสที่มีการออกไปสอนหนังสือเกี่ยวกับวิชาธรรมมะให้กับนักเรียนในหลายโรงเรียน และมีญาติโยมเข้ามาเป็นศิษย์ไม่น้อย ซึ่งจะเป็นที่รู้กันว่ามีกลุ่แม่ยกที่นับถือ จะเข้ามาฝากตัวเป็นศิษย์จำนวนไม่น้อย

หน้าแรก » อาชญากรรม