ยึดไม้ซุงทนายดังลอบโค่นไม้ป่าสงวน
สวมตอไม้ล้มฤทธิ์พายุปาบึก

ทหาร ฯนำทีมบึกยึดไม้ซุงทนายดังลักลอบโค่นไม้ป่าสงวนแห่งชาติสวมตอไม้ล้มฤทธิ์พายุปาบึก-แบ๊กโฮปราบพื้นที่เลียนโล่งทำพื้นที่แปรรูปไม้-พร้อมตัดถนนเพื่อให้รถบรรทุกเคลื่อนไม้ลงจากภูเขา

(23 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลตรีไตรรัตน์ ไชยรัตน์ ผบ.มทบ.41 ได้รับรายงานว่ามีการลักอบตัดไม้ทำลายป่าและใช้รถแบ๊คโฮในการแผ้วพื้นที่และเส้นทางการเคลื่อนย้ายไม้ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเขาหลวง(กรุงชิง) ในท้องที่ หมู่ 8 ต.นบพิตำ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช จึงสั่งการให้ กยก.มทบ.41 จัด ชป.รส. โดยมี ร.ท.สนธยา เอียดชูทอง เป็น หัวหน้าชุด ร่วมกับ สำนักงานป่าไม้ที่ 12 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาหลวง และผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.นบพิตำ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช เข้าตรวจสอบเมื่อ 22 ม.ค.2562 ตามที่ได้รับการร้องเรียน

เจ้าหน้าที่จึงเดินทางเข้าไปตรวจสอบ พบว่ามีการตัดถนนเป็นเส้นทางให้รถบรรทุกสามารถวิ่งขึ้นไปบนภูเขาได้ เมื่อขึ้นไปถึงเนินเขาพบว่ามีการปรับพื้นที่กว้างขวางสำหรับการแปรรูปไม้ซุง โดยยังพบว่ามีการตัดต้นไม้ประเภทไม้สงวน จำนวน 2 ต้น ขนาดใหญ่ 2-3 คนโอบ ตรวจสอบพบว่าเป็นไม้ตะเคียนทราย หรือไม้ไข่เขียว โดนมีการตัดเป็นท่อนๆ แล้ว 4-5 ท่อน เพื่อรอการแปรรูป และที่มีการแปรรูด้วยการผ่าซึกไปแล้วอีกจำนวนหนึ่ง แต่ไม่พบรถแบ๊คโฮที่เข้ามาปรับพื้นที่ คาดว่าไหวตัวทันได้หลบหนีไปก่อนหน้าแล้ว

จากการสอบถามผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.นบพิตำ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ว่าที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ แต่มีทนายความชื่อดังคนหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นผู้ครอบครองทำประโยชน์ ในเบื้องต้นจึงได้ทำการบันทึกและตรวจยึดไม้ดังกล่าว พร้อมทั้งแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน สภ.นบพิตำ เพื่อให้สืบสวนสอบสวนติดตามผู้กระทำความผิดเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงพายุโซนร้อนพัดถล่มทำให้ต้นไม้น้อยใหญ่ในพื้นที่ทั้ง 23 อำเภอของจังหวัดนครศรีธรรมราช หักโคนล้มระเนระนาดดับแสนต้น จึงมีนายทุนหัวใสหันมาประกอบธุรกิจทำไม้ แต่คาดว่ามีบางกลุ่มบางคน ลักลอบโค่นไม้ขนาดใหญ่เพื่อสวมตอว่าเป็นไม้ที่ได้รับความเสียหายหักโค่นเพราะฤทธิ์พายุปาบึก สำรับพื้นที่หมู่ 8 ต.นบพิตำ เป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้กับโครงการฝายคลองเกเนื่องมาจากพระราชดำริ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ท้องที่บ้านเขาโพธิ์ หมู่ที่ 9 อ.นบพิตำ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราชซึ่งเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำที่อุดมสมบูรณ์ แต่มีนายทุนลักลอบตัดโค่นไม้ขนาดใหญ่เพื่อประโยชน์ทางการค้าโดยผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง แต่แม้เจ้าหน้าที่จะมีการตรวจสอบและจับกุมตรวจยึดไม้ได้เป็นประจำ แต่กลับไม่สามารถสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดได้ ทำให้นายทุนที่อยู่เบื้องหลังลอยนวลมาได้โดยตลอด ในครั้งนี้ชาวบ้านจึงจับตากันว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถเอาผิดกับทนายความชื่อดังที่ลักลอบทำไม้เถื่อนในบริเวณดังกล่าวได้หรือไม่.