เมื่อวันที่ 4 เมษายน 63 ที่อำเภอเมืองนครปฐม เวลาประมาณ 12.30 น. พ.ต.ท.สามารถ จงประเสริฐ พนักงานสอบสน สภ.เมืองนครปฐม รับแจ้งเหตุยิงกันตาย ที่ร้านเฮียเล็กค้าปลีก เลขที่ 128 ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม จึงรุดไปตรวสอบพร้อมด้วย พล.ต.คำรณ บุญเลิศ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ชปัณฑกา คล้ายคลึง รองผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรศรีนวล ผกก.สภ.เมือง ชุดสืบสวนสภ.เมืองนครปฐม และชุดสิบสวน ภ.จว.นครปฐม แพทย์เวร รพ.ศูนย์นครปฐม เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 7 เจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม 

 

ในที่เกิดเหตุมี ลูกจ้าง ลูกค้า กำลังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหน้าร้านที่เป็นโกดัง สต๊อกและจำหน่ายสินค้า แบบค้าส่ง ตั้งอยู่ด้านหลังตลาดโอเดียน ตรงข้ามตลาดขายหมู สี่แยกทุ่งพระเมรุ เจ้าหน้าที่พบศพ นายอโนทัย จั่นเศรณี หรือเอ อายุ 41 ปี เจ้าของร้านนอนเสียชีวิตสภาพหงายหน้าจมกองเลือด มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 9 มม.ที่ลำตัว 6 นัด และที่แขนซ้าย 1 นัด และแขนขวา 1 นัด โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน คือ นางนันทพัฒ แก้วดิษฐ์ อายุ 38 ปี หรือเจ๊หน่อย ภรรยา ถูกยิงเข้าที่แขน 1 นัดและสะโพก 1 นัดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์ก่อนหน้า โดยจากการตรวจสอบพบ ปลอกและกระหัวกระสุนปืน ที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ 11 จุดเจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน 

 

สอบถาม นายเบิร์ด อายุ 39 ปี พนักงานส่งเครื่องปรุงอาหาร บอกว่าขณะเกิดเหตุตนเองกำลังมาส่งของที่ร้านดังกล่าว จู่ๆก็ได้ยินเสียงคนทะเลาะกันสักพักก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด และได้วิ่งมาอุ้มลูกชายหนี เมื่อตั้งสติได้ได้มาดูที่หน้าร้านพบ เฮียเฮ เจ้าของร้านนอนคว่ำหน้าไปแล้ว ส่วนเจ๊หน่อยก็ถูกยิง นั่งห่างจากเฮียเอประมาณ 2 เมตร และยังส่งเสียงร้องด้วยความตกใจ แต่เมื่อเห็นสามีเสียชีวิตจึงได้ช็อคแล้วสลบไปก่อนที่จะมีคนนำไปส่งโรงพยาบาล ตนเองจึงได้วิ่งเอาร่มมากางร่างของเฮียเอเอาไว้ ซึ่งตกใจกับเหตุการณ์เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ซึ่ง เฮียเอเป็นคนดีมีแต่คนรักใจดีแต่เป็นคนเสียงดัง

 

ขณะที่ นายเอ็กซ์ อายุ 29 ปี พนักงานร้านจำหน่ายสินค้าใกล้กัน บอกว่าขณะที่ตนเองกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์มาถึงร้านซึ่งอยู่ที่ ใกล้กับที่เกิดเหตุ เห็นมีคนทะเลาะกับ เฮียเอ เป็นชายหน้าคล้ายๆกัน แต่ร่างใหญ่กว่า สวมเสื้อสีน้ำตาลกางเกงขาสั้น ได้ยืนประชิดกัน ได้ชักปืนยิงใส่เผาขน 3 นัดตนเองตกใจคิดว่ามีเหตุกราดยิงจึงวิ่งหนี และได้ยินเสียงปืนดังอีกหลายนัดเมื่อเสียงสงบได้ชะโงกหน้ามาดูพบว่า ชายคนที่ก่อเหตุ ขี่ จักรยานยนต์ยี่ห้อน่าจะเป็นฮอนด้าคลิก สีเข้ม ขับขี่หนีออกไปทางด้านหลังแล้ว 

 

นายมนูญ พวงเงิน หรือกุ้ง อายุ 44 ปี เพื่อนสนิทของเสี่ยเอ บอกว่า สองพี่น้องทะเลาะกันเป็นประจำแต่ก็เดี๋ยวๆก็หาย ซึ่งไม่คิดว่าจะมีการยิงกันแบบนี้ เพราะเสี่ยเอ นั้นเป็นคนขยันทำมาหากิน เวลาจะช่วยเหลือคนก็ไม่เคยปฏิเสธ ตนเองจะเอาของส่งไปช่วยคนในป่าก็ยังสนับสนุนตลอด แต่เป็นคนเสียงดัง ซึ่งทุกคนรู้แต่ก็มีคนรักเยอะ โดยประเด็นเคยได้ยินเสี่ยเอ บ่นว่าน้องชายติดหนี้อยู่ไม่น้อย ซึ่งน้องชายนั้นใช้เงินเยอะมีหนี้สินมาก อาจจะเล่นพนันเยอะอยู่ แต่ก็ไม่ปักใจเพราะว่า หลายคนก็บอกว่าแม้ทั้งคู่จะทะเลาะกันแต่ก็สนิทสนมกันดี

 

โดยบรรยากาศร้านที่ดังกล่าว พบว่าคนงานและญาติของ นายอโนมัย หรือเฮียเอ นั้นแตกตื่นและยังตั้งสติไม่ได้ โดยเฉพาะกลุ่มญาติที่มาช่วยกันทำงานเรียงของและขนของขึ้นรถเพื่อเตรียมไปส่งลูกค้ากันอย่างขมักเขม่น เนื่องจากสินค้ากำลังขายดีเพราะประชาชนกำลังซื้อสินค้าเก็บกักไว้สำหรับสถานการณ์ ประกาศเคอร์ฟิว ที่กำลังบังคับใช้  ซึ่งคนร้ายที่ก่อเหตุ คาดว่าน่าจะเป็นน้องชายของเสี่ยเอ คือนายลี่ น้องชายคนสุดท้อง จากพี่น้องทั้งหมด 5 คน ซึ่งเสี่ยเอ เป็นบุตรคนที่ 3 จากที่น้องในครอบครัว ซึ่งในที่เกิดเหตุ เฮียเล็กก็ได้มาอยู่ดูเหตุการณ์และให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้วแต่ยังไม่มีการเปิดเผยอะไรออกมา 

 

ทั้งนี้แหล่งข่าวที่ได้รับโทรศัพท์จากกลุ่มเพื่อนๆ ของเสี่ยเอ บอกว่า ช่วงเช้าดูเหมือนว่า นายลี่ น่าจะมาเล่นกับหลานชายซึ่งเป็นลูกชายของเสี่ยเอ ซึ่งมีบุตรทั้งหมด 3 คน โดยคนเล็กเพิ่งคลอดได้ 8 เดือนเท่านั้น และเกิดทะเลาะกันโดยได้ไปฟ้องพ่อ พอตกเที่ยง นายลี่ได้ขับขี่จักรยานยนต์ มาที่เกิดเหตุ และได้มีปากเสียงกับเสี่ยเอ และทะเลาะกันเสียงดังพักใหญ่ ก่อนที่เสี่ยเอจะเดินไปถีบรถจักรยานยนต์ของนายลี่ล้ม และนายลี่ ได้ชักอาวุธปืนมายิงใส่หลายนัดก่อนจะหลบหนีไปทางหลังร้าย โดยตำรวจได้เร่งนำภาพจากกล้องวงจรปิดไปแกะรอยนายลี่แล้วว่าก่อเหตุจริงจากที่ได้ข้อมูลมาเบื้องต้นหรือไม่ ก่อนจะมีการเร่งติดตามคนร้านที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป