จากกรณีนายชาย(ขอสงวนชื่อ สกุล จริง) อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 หมู่ที่ 7 ชุมชนแสนสวาสดิ์ 2. ต.บุ่ง อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ ผู้เป็นน้า ทะเลาะวิวาทกับนาย ระพิน ทองมหา อายุ 41 ปี ผู้เป็นหลาน มีบ้านพักอยู่ ต.นาผือ อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ ทำให้ นายระพิน ทองมหา ผู้เป็นหลาน เสียชีวิต ต่อมา นายชาย(น้า) ได้ขุดหลุมฝัง นายระพิน ทองมหา หลานชาย บริเวณที่ดินว่างเปล่าหน้าบ้านพักของตน และญาติ ซึ่งมีบ้านพักอยู่ไม่ไกลที่เกิดเหตุ  เห็นเหตุการณ์ จึง โทรศัพท์แจ้งตำรวจ เพื่อระงับเหตุและทำการควบคุมตัว นายชาย ผู้ต้องหาฆ่าหลานชายแท้ๆ ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น ถึงแก่ความตาย ซึ่งนายชาย มีอาการเหมือนคนสติไม่สมประกอบ และมีบาดแผลที่บริเวณลำคอ จากการต่อสู้กับหลานชาย จึงนำตัวส่ง ร.พ.อำนาจเจริญ เพื่อปฐมพยาบาล โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแล อย่างใกล้ชิด เหตุเกิดบริเวณที่ดินว่างเปล่า หน้าบ้านเลขที่ 58 หมู่ที่ 7 ชุมชนแสนสวาสดิ์ 2 ต.บุ่ง อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ เมื่อเวลา 12.00 น.ของวันที่ 8 ก.ค.63 ที่ผ่านมา

 

ซึ่งนายชาย ผู้ต้องหาฆ่าหลานแท้ๆ ทำการรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลอำนาจเจริญอยู่ 2 วัน และวันนี้( 10 ก.ค. 63) เวลา 09.00 น. แพทย์ โรงพยาบาลอำนาจเจริญ อนุญาต ให้นำนายชาย(ผู้ต้องหา) ออกจาก โรงพยาบาลอำนาจเจริญ ได้ ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอำนาจเจริญ จำนวนหนึ่ง ไปรับควบคุมตัวนายชาย ผู้ต้องหาฆ่าหลาน อย่างแน่นหนา ไปที่ สภ.เมืองอำนาจเจริญ เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

พ.ต.อ.วิเชียร วชิรแสงไพโรจน์ ผกก.สภ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมหลักฐานครบถ้วน ซึ่งจะส่งฟ้องศาลจังหวัดอำนาจเจริญภายในวันนี้( 10 ก.ค. 63 ) และไม่มีการนำผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และมั่นใจ ในพยานหลักฐานที่ชัดเจนรัดกุม ผู้ต้องหาดิ้นไม่หลุดแน่นอน โดยตั้งข้อหาว่า ทำร้ายร่างกายผู้อื่นถึงแก่ความตาย และซ่อนเร้นอำพรางศพ ผกก.สภ.เมืองอำนาจเจริญ กล่าว

ด้าน พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผบก.ภ.จว.อำนาจเจริญ กล่าวถึงกรณีน้าฆ่าหลานว่า เป็นเรื่องทะเลาะวิวาทกันระหว่างน้ากับหลาน ซึ่งกล้องวงจรปิดจับภาพเห็นชัดเจนว่า น้ากับหลานกำลังมีเรื่อง ทะเลาะวิวาท  ต่อสู้กัน ซึ่งน้าใช้ฉมวกแทงหลานล้มแน่นิ่ง และใช้มีดฟัน ใช้จอบตีซ้ำ จนเสียชีวิต และขุดหลุมฝัง เพื่ออำพรางศพ ซึ่งก็มีผู้เห็นเหตุการณ์ และ โทร.แจ้งตำรวจ เพื่อจับกุม

 

พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผบก.ภ.จว.อำนาจเจริญ กล่าว ถึงกรณีผู้ต้องหาวิกลจริตว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหา ซึ่งผู้ต้องหาพูดจารู้เรื่อง ไม่ได้เป็นคนวิกลจริตแต่อย่างใด ถ้าว่า ผู้ต้องหาวิกลจริต จะต้องเอาหลักฐานไปพิสูจน์ที่ศาล

 

พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผบก.ภ.จว.อำนาจเจริญ  กล่าวเพิ่มเติมว่า จากที่มีผู้ที่อาศัยอยู่ชุมชนแสนสวาสดิ์ 2 ต.บุ่ง อ.เมืองอำนาจเจริญ ใกล้บ้านผู้ต้องหาหวาดผวา เกรงจะถูกทำร้าย ก็คงเบาใจได้ เพราะผู้ต้องหาถูกจับกุมแล้ว ไม่อาจไปทำร้ายใครได้อีก และได้สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะที่เกิดเหตุ เพราะประชาชนยังขวัญเสียกับเหตุสะเทือนขวัญอยู่ ให้เพิ่มการออกตรวจถี่ขึ้น เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแก่ประชาชน และถ้าพบเห็นคนวิกลจริต ให้อยู่ห่างๆ และแจ้ง สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อควบคุมตัวดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป และหากพบเห็นคนวิกลจริต(คนบ้า) มีอาการคลุ้มคลั่ง อาจทำร้ายผู้อื่น ให้แจ้งไปที่ โทร .191  ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกไปรับระงับเหตุทันที