วันศุกร์ ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567 09:19 น.

อาชญากรรม

โจรบุกงัดหลังคาร้านเครื่องไฟฟ้ากลางเมืองนครพนม กวาดเงินสดเกือบหมื่นหนี

วันเสาร์ ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2565, 18.18 น.
วันที่ 13 สิงหาคม 2565 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จาก  น.ส.สุภาพร ทาตะรัตน์ อายุ 46 ปี ผู้จัดการร้านวิทยาอิเลคทริคเซ็นเตอร์ จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด ตั้งอยู่เยื้องสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดนครพนม (บขส.) เลขที่ 351/13 ถนนเฟื่องนคร เขตเทศบาลเมืองนครพนม ว่า มีคนร้ายจำนวน 1 คน ลักลอบเข้าไปรื้อค้นทรัพย์สินภายในร้าน โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน ในการเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.หญิง มนัสนันท์ บุรีภักดี รองสารวัตรพนักงานสอบสวน ส.เมืองนครพนม เมื่อวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา
 
น.ส.สุภาพร ผจก.ร้านวิทยาอิเลคทริคเซ็นเตอร์ เล่าว่าจากหลักฐานในกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ในร้าน จำนวน 10 ตัว ระบุเวลา 21.59 น. วันที่ 11 สิงหาคม มีคนร้ายลักษณะสูง หน้าตาดี ใช้บันไดสไลด์ที่วางไว้ที่พื้นข้างผนังตึกที่อยู่ติดริมคลองระบายน้ำ ปีนขึ้นไปบนหลังคาร้านแล้วถอดน๊อตหลังคาออก จนสามารถมุดตัวลงไปที่ฝ้าแล้วใช้ของแข็งเจาะฝ้าเพดาน ก่อนจะโรยตัวลงมาตรงห้องเก็บสิ่งของ จากนั้นคนร้ายก็เดินเข้าไปยังเคาท์เตอร์รื้อสิ่งของกระจุยกระจาย โดยใช้เวลาอยู่ภายในร้านนานกว่า 2 ชั่วโมง แล้วก็ปีนกลับมายังช่องทางที่ลักลอบเข้ามาหลบหนีไป
 
รุ่งเช้า น.ส.ภัทรนิษฐ์ เมษาคุณ อายุ 49 ปี พนักงานขายได้มาเปิดร้าน เห็นสิ่งของกระจายเต็มพื้นด้านหลังเคาท์เตอร์ จึงรีบไปแจ้งแก่นางรสสุคนธ์ จำปาศี อายุ 56 ปี เจ้าของร้านมาตรวจสอบ พบว่ามีเงินสดที่อยู่ในลิ้นชัก จำนวน 2,120 บาท และเงินเหรียญสำหรับทอนลูกค้าอีก 1,000 บาท ส่วนในห้องเจ๊เจ้าของร้านมีเงินเศษเตรียมไว้แลก 3,000 บาท รวมเป็นเงิน 7,120 บาทที่ถูกคนร้ายขโมยไป จึงไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ เก็บหลักฐานรอยนิ้วมือแฝง เพื่อไปเปรียบเทียบประวัติอาชญากรที่เคยมีถูกดำเนินคดีมาแล้ว
 
ด้าน น.ส.ภัทรนิษฐ์ เมษาคุณ ผู้พบเห็นคนแรกเล่าว่า ทำงานอยู่ที่ร้ายมานานนับสิบปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน จากพฤติกรรมของคนร้ายคงไม่ใช่มืออาชีพ เพราะรีบรื้อค้นหาเงินโดยในลิ้นชักมีกระเป๋าเก็บเงินไว้หลายใบ มีสองใบที่คนร้ายรื้อออกมาแล้วแต่ไม่เปิดดู ซึ่งมีเงินรวมกันประมาณ 12,000 บาท อีกทั้งไม่แตะต้องเครื่องใช้ไฟฟ้าที่วางตามชั้นแม้แต่นิดเดียว
 
ทั้งนี้ น.ส.สุภาพรฯ ผจก.ร้านวิทยาอิเลคทริคเซ็นเตอร์ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่าคนร้ายรายนี้ ไม่น่าใช่โจรมืออาชีพเพราะดูในกล้องวงจรปิด นอกจากจะแต่งตัวดี รูปร่างไม่เหมือนขโมยขโจรทั่วไป จากการสังเกตไฟฉายที่ใช้ส่องจากโทรศัพท์มือถือแล้ว คาดน่าจะเป็นยี่ห้อไอโฟน การที่ออกมาเปิดเผยก็ต้องการให้ร้านค้าหรือบ้านเรือนที่ไม่มีคนอยู่ มั่นดูแลประตูหน้าต่างให่มั่นคง แม้ทางร้านจะมีวงจรปิดถึง 10 ตัว คนร้ายก็ไม่ได้เกรงกลัวแต่อย่างใด และไม่อยากให้ไปก่อเหตุลักษณะนี้กับที่อื่น จึงฝากความหวังไว้ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว เพราะถือเป็นภัยสังคม

หน้าแรก » อาชญากรรม