บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี เดินหน้าในฐานะ “ห้างคนไทย หัวใจคือลูกค้า” เปิดบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาขอนแก่น 2 บ้านดอบม ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น เป็นในรูปแบบไฮเปอร์มาร์เก็ต ลำดับที่ 148 บนทำเลที่จังหวัดขอนแก่น พร้อมรองรับทุกความต้องการ และตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัยอย่างลงตัว โดยเน้นชูจุดเด่นไลฟ์สไตล์ช็อปปิ้งคอมเพล็กซ์ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สู่การเป็นศูนย์กลางการจับจ่ายช้อปปิ้งของคนในชุมชนและบริเวณใกล้เคียง  

 

นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่  บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี เผยว่า  เพื่อมุ่งขยายแหล่งช็อปปิ้งคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่เพื่อให้ครอบคลุม และตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าทั่วประเทศ ล่าสุดบิ๊กซี ได้บุกตลาดเปิดประตูสู่ภาคอีสานอย่างต่อเนื่อง เปิดบิ๊กซี สาขาขอนแก่น 2 ป็นสาขาแบบไฮเปอร์มาร์เก็ต ลำดับที่ 148 ด้วยพื้นที่ รวม 72,000 ตารางเมตร จัดสรรพื้นที่เป็นอาคารบริการลูกค้า 10,232 ตารางเมตร พร้อมสินค้า 20,415 รายการที่มีคุณภาพในราคาประหยัด และร้านค้าชั้นนำอีกมากมาย รวมถึงพื้นที่จอดรถยนต์และจักรยานยนต์ เพื่อรองรับและเอื้ออำนวยต่อความสะดวกให้น้องชาวขอนแก่นและประชาชนบริเวณใกล้เคียงที่มาใช้บริการ นอกจากนี้ บิ๊กซียังได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายพิเศษต่างๆ เพื่อสร้างสีสันในการช้อปปิ้งให้กับลูกค้าของเราอย่างต่อเนื่อง

“โดยตลอดเวลากว่า 26 ปีที่ผ่านมา บิ๊กซีมุ่งมั่นพัฒนา และขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบความคุ้มค่าและความพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้บริโภค พร้อมผ่านการบริการด้วยใจ สินค้าคุณภาพราคาประหยัด ที่สำคัญคือการเป็นห้างคนไทยหัวใจคือลูกค้า ที่มุ่งมั่นการพัฒนาชุมชน สร้างรายได้ให้กับท้องถิ่น การสร้างงาน การรักษาสิ่งแวดล้อม และการส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อพี่น้องคนไทยของเราทั่วประเทศ”

 

 

พร้อมกันนี้บิ๊กซีมุ่งตอกย้ำนโยบาย “ห้างคนไทย หัวใจคือลูกค้า” โดยทุกการจับจ่ายสินค้าภายในบิ๊กซีของทุกท่าน จะเป็นผลตอบแทนกลับสู่ชุมชนในรูปแบบภาษีท้องถิ่น เนื่องจากบิ๊กซีมีนโยบายในการชำระภาษีคืนกลับสู่ท้องถิ่น ในทุกพื้นที่ที่บิ๊กซีเปิดให้บริการ และยังมุ่งสนับสนุนการจ้างงานในท้องถิ่น และการให้พนักงานสามารถ โอนย้ายกลับมาทางานที่ภูมิลำเนา เพื่อให้พนักงานได้อยู่ใกล้ชิดกับครอบครัว ซึ่งบิ๊กซี สาขาขอนแก่น 2 นี้ มีพนักงานประจำทั้งสิ้น 116 คน โดยเป็นการจ้างงานในท้องถิ่น 53 คน และมีพนักงานโอนย้ายกลับภูมิลำเนาจำนวน 63 คน