วันอาทิตย์ ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 09:42 น.

การศึกษา

ม.มหิดล นำชมท่องเที่ยวชุมชนคลองมหาสวัสดิ์

วันพฤหัสบดี ที่ 04 กรกฎาคม พ.ศ. 2562, 16.16 น.

ม.มหิดล  นำชมท่องเที่ยวชุมชนคลองมหาสวัสดิ์

 
สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล จัดโครงการส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น “ภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่การจัดการท่องเที่ยวชุมชนอย่างยั่งยืน” ณ ห้องสุวรรณภูมิ อาคารเรือนไทย มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา และพื้นที่ท่องเที่ยวชุมชนคลองมหาสวัสดิ์ โดยมี ดร.จิติกานต์ จินารักษ์ นักวิชาการวัฒนธรรม เป็นผู้ดำเนินโครงการฯ จากแนวคิดที่ว่า "ชุมชนเข้มแข็งได้ด้วยภูมิปัญญา" กล่าวต้อนรับโดย รองศาสตราจารย์ ดร.ขวัญจิต ศศิวงศาโรจน์ ผู้อำนวยการสถาบันฯ
 
 
โครงการส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นโครงการที่ได้รับความร่วมมือจากปราชญ์ชุมชนตำบลคลองมหาสวัสดิ์ ตำบลคลองโยง และตำบลศาลายา มาร่วมเผยแพร่ความรู้จากการจัดการท่องเที่ยวจากภูมิปัญญาท้องถิ่นตามบริบทวัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมของชุมชน เพื่อเป็นแนวทางในการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาสร้างสรรค์อาชีพด้านการท่องเที่ยว ซึ่งสามารถนำมาเป็นต้นแบบให้กับบุคลากร นักศึกษา ศิษย์เก่า เครือข่ายกลุ่มชาติพันธุ์ และบุคคลทั่วไป ได้ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้มุมมองการส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นด้วยความภาคภูมิใจ สู่การสร้างสรรค์เศรษฐกิจชุมชนด้วยการจัดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ทั้งชุมชนเศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม
 
 
กิจกรรมในช่วงเช้า เริ่มด้วยการเสวนาในหัวข้อ "ภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่การจัดการท่องเที่ยวชุมชนอย่างยั่งยืน” วิทยากรโดย กำนันอาภรณ์ ช้อยประเสริฐ แห่งตำบลคลองมหาสวัสดิ์ "ป้าแจ๋ว" จงดี เศรษฐอำนวย ปราชญ์ชุมชนตำบลศาลายา ร่วมด้วย คุณชญาทัต เนียมแสวง นักวิชาการท้องถิ่นตำบลคลองโยง ซึ่งได้เล่าถึงความเป็นมาของคลองมหาสวัสดิ์ว่า เป็นคลองสายประวัติศาสตร์เส้นสำคัญที่ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ขุดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2404  เพื่อเชื่อมระหว่างแม่น้ำเจ้าพระยากับแม่น้ำท่าจีน ให้ใช้เป็นเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ โดยพระองค์ท่านได้พระราชทานนามว่า “มหาสวัสดี” ชาวบ้านในชุมชนคลองมหาสวัสดิ์ส่วนใหญ่เป็นคนไทยเชื้อสายจีน อาชีพทำการเกษตร ทำสวนผลไม้ ตั้งบ้านเรือนอยู่ริมน้ำ หรืออยู่ตามเรือกสวนไร่นา คลองแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนน้ำหล่อเลี้ยงชุมชนมานับร้อยปี
 
 
คลองมหาสวัสดิ์ มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมทางชาติที่น่าสนใจมากมายหลายจุด โดยตั้งแต่ปี พ.ศ.2540 ที่เกิดเศรษฐกิจตกต่ำจากภาวะฟองสบู่แตก ชาวบ้านในชุมชนได้รวมตัวกันช่วยพัฒนาเรื่องการท่องเที่ยว แม้จะต้องหยุดชะงักไปบ้างในปี พ.ศ.2554 ที่ประสบภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่ ทำให้บ้านเรือนและเรือกสวนไร่นาเสียหาย แต่ก็สามารถฟื้นตัวได้ในเวลาต่อมา
 
 
กิจกรรมในช่วงบ่ายเป็นการเดินทางถึงพื้นที่ท่องเที่ยวชุมชนคลองมหาสวัสดิ์ เรียนรู้พื้นที่จริงโดยทางเรือ เพื่อเข้าชมภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านการเกษตรกับการจัดการท่องเที่ยวของชุมชนคลองมหาสวัสดิ์ โดยกิจกรรมแบ่งเป็น 4 จุดด้วยกัน คือ จุดที่ 1 : นาบัวลุงแจ่ม  ที่อยู่ : 61 หมู่ 3 ตำบลมหาสวัสดิ์ อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม เป็นแปลงเกษตรพื้นที่ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พระราชทานแก่ประชาชนเพื่อใช้ประกอบอาชีพ มีพื้นที่ประมาณ 15 ไร่ นาบัวแห่งนี้ใช้เป็นแปลงสาธิตและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบล โดยถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่ทำรายได้ให้เกษตรกรบ้านศาลาดินได้เป็นอย่างดี ซึ่งบัวส่วนใหญ่ที่ปลูกเป็น บัวสัตตบงกชสีชมพู ที่ใช้ไหว้พระ ไม่มีเมล็ดบัวให้กินเหมือนบัวหลวง ณ จุดนี้ นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกิจกรรมพายเรือเก็บดอกบัว ได้เรียนรู้วิธีการปลูกบัว วิธีการตัดแต่ง วิธีการเก็บบัวขาย ตลอดจนเรียนพับบัว นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูปจากบัว เช่น น้ำเกสรดอกบัว ชาจากเกสรดอกบัว ดอกบัวปั้นดินญี่ปุ่น พืชผัก ผลไม้ตามฤดูกาลจำหน่าย ติดต่อ : คุณประไพ สวัสดิ์โต (ป้าติ๋ว) เจ้าของนาบัวลุงแจ่ม โทร. 0-8-7828-1892
 
 
จุดที่ 2 : ข้าวตังและวิสาหกิจชุมชน  ที่อยู่ : 58/2 หมู่ 3 บ้านศาลาดิน ตำบลมหาสวัสดิ์ อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม เกิดจากการรวมกลุ่มของแม่บ้านเกษตรกรคลองมหาสวัสดิ์ โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 จนกลายเป็นต้นแบบให้หลายหน่วยงานเข้ามาศึกษาดูงาน เพื่อนำวิธีการจัดการไปต่อยอดและพัฒนาในชุมชนของตนเอง ซึ่งผลิตภัณฑ์เด่น ได้แก่ ข้าวตังหอมมะลิหน้าหมูหยอง และหน้าธัญญพืช โดยได้มีการสอนวิธีการทำข้าวตัง ไข่เค็ม กล้วยตาก และดินพร้อมปลูกจากผักตบชวาให้แก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย ติดต่อ : คุณวันชัย สวัสดิ์แดง ผู้แทนชุมชนบ้านศาลาดิน และรองประธานกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรมหาสวัสดิ์ โทร. 08-1498-6340, 034-297-099
 
 
จุดที่ 3 : บ้านฟักข้าว ขนิษฐา พินิจกุล  ที่อยู่ : 31/7 หมู่ 3 ตำบลมหาสวัสดิ์ อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐมเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ชมสวนฟักข้าว และเรียนรู้การแปรรูปฟักข้าวเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น สบู่ ยาสระผม ลิ้มชิมรสเมนูจากฟักข้าว เช่น น้ำฟักข้าว คุกกี้ฟักข้าว หมี่กรอบฟักข้าว น้ำซอสเย็นตาโฟฟักข้าว โดยมี “แม่จิ๋ม” แห่งลุ่มน้ำมหาสวัสดิ์ ร้องแหล่ขับกล่อมบอกเล่าเรื่องราวของคลองมหาสวัสดิ์ให้ฟังกันเพลินๆ แม่จิ๋มเล่าด้วยความภาคภูมิใจว่า เป็นบทเพลงที่ประพันธ์โดย ผศ.อภิลักษณ์ เกษมผลกูล อดีตคณบดีคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ทั้งนี้ฟักข้าว เป็นพืชที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย โดยในเยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าวอุดมไปด้วย สารไลโคปีน ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ และอุดมไปด้วย เบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของวิตามินติดต่อ : คุณขนิษฐา พินิจกุล กลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์จากฟักข้าวเกษตรพัฒนา โทร. 08-1902-4516
 
 
จุดที่ 4 : สวนผลไม้อินทรีย์ 36 ไร่ของคุณบุญเลิศ เศรษฐอำนวย  ที่อยู่ : 97 หมู่ 1 ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม พบกับ "ป้าแจ๋ว” จงดี เศรษฐอำนวย (ลูกสาวของคุณบุญเลิศ) ผู้นำกลุ่มแม่บ้านและเกษตรกรบ้านศาลาดินที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการทำเกษตรอินทรีย์ พัฒนาต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์แปรรูป ชิม "เมี่ยงคำบัวหลวง" ที่ใช้กลีบดอกบัวหลวงปลอดสารพิษห่อแทนใบชะพลู กับเครื่องเมี่ยงคำ เช่น มะพร้าวคั่ว กุ้งแห้ง ฯลฯ ที่ใช้วัตถุดิบคัดสรรมาเป็นอย่างดี โดยไฮไลต์ของที่สวนแห่งนี้ คือ   "อีแต๋นสิงห์คะนองนา พาชมสวน" ซึ่งป้าแจ๋วการันตีว่า “ไม่เสียว ไม่หัวเราะ ยินดีคืนเงิน”
 
 
เดิมสวนคุณบุญเลิศ เศรษฐอำนวย เป็นแหล่งผลิตส้มโอคุณภาพส่งออกต่างประเทศ 5 สายพันธุ์ ได้แก่ ส้มโอขาวทองดี ขาวน้ำผึ้ง ขาวหอม ขาวแป้น และขาวพวง แต่จากเหตุการณ์น้ำท่วมปี พ.ศ. 2554 ทำให้ส้มโอไม้ผลสร้างชื่อของคุณบุญเลิศเสียหายรากเน่าตายจนหมด จนปัจจุบันนี้สามารถฟื้นฟูพื้นที่และปลูกส้มโอได้เพียง 2 สายพันธุ์ ได้แก่ ขาวน้ำผึ้ง และทองดี นอกจากนี้จึงต้องเสริมด้วยการปลูกพืชผลที่โตเร็ว เช่น กล้วยน้ำว้า กล้วยหอมทอง กล้วยไข่ มะม่วง ขนุน ฝรั่ง สมุนไพร พืชผักสวนครัว ฯลฯ เพื่อที่จะสร้างรายได้ และลดค่าใช้จ่าย เป็นการเกษตรแบบผสมผสาน ติดต่อ : คุณจงดี เศรษฐอำนวย (ป้าแจ๋ว) ผู้แทนวิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลไม้ตำบลศาลายา และ สวนผลไม้ฯ ลุงบุญเลิศ โทร. 08-9057-1432
 
 
การเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางในครั้งนี้ จากมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ใช้เส้นทาง "ศาลายา – นครชัยศรี” ตรงไปทางแมคโคร ศาลายา  อีกประมาณ 5.5 กิโลเมตร ถึงปั๊ม ปตท. จะมีป้ายบอกทางไปยังคลองมหาสวัสดิ์ พอข้ามทางรถไฟแล้วให้เลี้ยวขวา และตรงต่อไปจนถึงวัดสุวรรณาราม จะพบป้ายจุดล่องเรือชมคลองมหาสวัสดิ์ โดยสามารถจอดรถไว้ที่บริเวณวัดได้  สอบถามรายละเอียดท่องเที่ยวชุมชนคลองมหาสวัสดิ์ได้ที่ ผู้ใหญ่มนูญ นราสดใส ประธานวิสาหกิจชุมชนการท่องเที่ยวเชิงเกษตรล่องเรือชมสวนเลียบคลองมหาสวัสดิ์ โทร. 0-81495-9091

หน้าแรก » การศึกษา