การศึกษา
ถักทอเครือข่ายพระสงฆ์นักพัฒนา อีสานล่าง ใช้ “ธรรมนำทาง สร้างสุขภาวะ”
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

การรวมพลังขับเคลื่อนงานสุขภาวะของคณะสงฆ์ภาคอีสานไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นภารกิจที่สืบทอดและพัฒนามาอย่างต่อเนื่องยาวนาน โดยมีรากฐานที่แข็งแกร่งตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2557 กับ "โครงการลดปัจจัยเสี่ยง" ที่ได้ขับเคลื่อนครอบคลุมพื้นที่ภาคอีสานทั้งหมด มีการจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั้งในระดับภูมิภาค
ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น และในระดับประเทศ ณ ส่วนกลางที่วังน้อย เครือข่ายพระสงฆ์นักพัฒนาเหล่านี้ได้ริเริ่มโครงการสำคัญต่าง ๆ มากมาย อาทิ โครงการ "บวชสร้างสุข" และ "ธรรมทายาท" ซึ่งเป็นเสมือน "รากแก้ว" ที่หล่อเลี้ยงและสร้างสรรค์คุณูปการแก่สังคมมาโดยตลอด
เมื่อบริบทของสังคมเปลี่ยนไป ปัญหาต่าง ๆ ยิ่งซับซ้อนและมีอยู่รอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า ยาเสพติด หรือเครื่องมึนเมาที่ยังคงเป็นปัญหาในการขับขี่และการทะเลาะวิวาท ด้วยเล็งเห็นถึงความท้าทายเหล่านี้ เครือข่ายจึงได้พัฒนาและยกระดับการทำงาน จากโครงการ "บวชสร้างสุข" ในหลายระยะ สู่ "โครงการส่งเสริมสุขภาวะลดปัจจัยเสี่ยงมีวัดเป็นศูนย์กลางด้วยหลักพุทธธรรม" หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า "วัดสุขภาวะ" เพื่อตอบโจทย์สุขภาวะแบบองค์รวม 4 มิติอย่างครอบคลุมยิ่งขึ้น
ด้วยเจตนารมณ์อันแน่วแน่ เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา เครือข่ายพระสงฆ์นักพัฒนาภาคอีสานตอนล่าง ได้รวมพลังจัด เวที "พัฒนาเครือข่ายสังฆะเพื่อสังคมภาคอีสานล่าง 'ธรรมนำทาง สร้างสุขภาวะ' ขึ้นอย่างน่าประทับใจ ณ วัดสิงห์วงศ์ ต.หนองไทร อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ โดยได้รับความเมตตาจาก พระครูปริยัติภัทรคุณ เจ้าคณะอำเภอนางรอง จ.บุรีรัมย์ เป็นประธานในพิธี
เวทีแห่งการเรียนรู้ครั้งนี้เป็นหมุดหมายสำคัญในการ "สานต่อ ถักทออุดมการณ์เครือข่ายพระสงฆ์นักพัฒนาจากรุ่นสู่รุ่น และจากระดับภาคสู่ระดับประเทศ" เพื่อสร้างความรู้จัก เข้าใจ และร่วมกันขับเคลื่อนงาน โดยมีเป้าหมายหลักในการเชื่อมโยงพระสงฆ์นักพัฒนาจาก 8 จังหวัดภาคอีสานตอนล่าง ได้แก่ อุบลราชธานี, ศรีสะเกษ, อำนาจเจริญ, ยโสธร, สุรินทร์, บุรีรัมย์, ชัยภูมิ, และนครราชสีมา นับเป็นการ "แสดงพลังแห่งสังฆานุภาพ" ที่ยังคงไม่ได้ถูกเผยแพร่อย่างกว้างขวางนัก เพื่อผนึกกำลังในการสร้างสังคมสุขภาวะที่เข้มแข็งและยั่งยืน
เวทีได้รับความเมตตาอย่างสูงจาก พระครูโพธิวีรคุณ เจ้าคณะอำเภอปทุมรัตต์ จ.ร้อยเอ็ด ประธานเครือข่ายพระสงฆ์นักพัฒนาภาคอีสานตอนบน ที่ได้มาบรรยายถึงพลวัตการขับเคลื่อนเครือข่ายพระนักพัฒนาภาคอีสานบน เพื่อแลกเปลี่ยนบทเรียนและขยายผลสู่ภาคอีสานตอนล่าง
การดำเนินรายการชวนพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเป็นไปอย่างราบรื่นและลึกซึ้ง โดย นายชัยณรงค์ คำแดง ผู้รับผิดชอบโครงการ "วัดสุขภาวะ" ท่านได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำความรู้จักและเข้าใจในงานของกันและกัน เพื่อเป็นกำลังใจและสนับสนุนการทำงานร่วมกันให้เกิดผลเป็นรูปธรรม
จากบทเรียนสู่ "วัดสุขภาวะต้นแบบ": การขับเคลื่อน 4 มิติ
พระสงฆ์นักพัฒนาที่เข้าร่วมเวที ได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนประสบการณ์และผลงานอันทรงคุณค่า ที่สะท้อนถึงการขับเคลื่อน "วัดสุขภาวะ" ใน 4 มิติอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาสู่ "วัดสุขภาวะต้นแบบ" อันจะนำไปสู่เป้าหมาย "พระแข็งแรง วัดมั่นคง ชุมชนเป็นสุข" อย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติทั้งฉบับปี 2560 และ 2566
1. สุขภาวะทางกาย (Body Smart) และการดูแลพระสงฆ์อาพาธ
มีการพูดถึง "โรงเรียนเบาหวานคณาราม" และการตรวจสุขภาพพระสงฆ์ ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการดูแลสุขภาพพระสงฆ์ที่มักประสบปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
"กองบุญสุขภาวะพระภิกษุสามเณรอาพาธ" ของจังหวัดศรีสะเกษ เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นและมีรายละเอียดมากในการจัดตั้งกองทุนดูแลพระสงฆ์อาพาธ โดยเน้นย้ำแนวคิด "พระไม่ทิ้งพระ" แม้จะเผชิญความท้าทายแต่ก็สามารถขับเคลื่อนมาได้อย่างต่อเนื่อง. กองทุนนี้ได้ให้การช่วยเหลือพระภิกษุอาพาธ เช่น การถวายปัจจัยรายเดือนแก่พระอาพาธติดเตียง และการดูแลค่าใช้จ่ายเมื่อต้องเข้าโรงพยาบาล
"กุฏิชีวบาล" เพื่อดูแลพระสงฆ์อาพาธระยะสุดท้ายและผู้ป่วยติดเตียง ก็มีการจัดตั้งขึ้นในหลายพื้นที่ เช่น วัดฉาเย็น จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นวัดแรกในอำเภอที่ดำเนินโครงการนี้ รวมถึงวัดสุวรรณาราม และวัดอัมพวันคุณาสรณ์ ในอำเภอนางรอง
2. สุขภาวะทางจิต (Mindful Age) และการสร้างสรรค์สังคมเชิงพุทธ
"บวชสร้างสุข" เป็นโครงการที่ได้รับการตอบรับอย่างกว้างขวาง โดยมีเป้าหมายให้การบวชเป็นไปอย่างเรียบง่าย ประหยัด ปราศจากอบายมุข เช่น สุราและการพนัน. พระสงฆ์หลายรูปได้แบ่งปันแนวทางปฏิบัติที่วัดของตน ทั้งการกำหนดกติกาที่เข้มงวด การจัดพิธีบนสนามหญ้า, การรับรองการบวชฟรีแต่มีเงื่อนไขให้ศึกษาและอยู่จำพรรษา. โครงการนี้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายให้ญาติโยมได้อย่างมหาศาล โดยเฉพาะค่าสุราเบียร์กว่า 60 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายรวมกว่า 300 ล้านบาท ในเวลาไม่ถึง 2 ปี. แสดงให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่กว่า 90% ต้องการการบวชแบบเรียบง่ายแต่ขาดต้นแบบและผู้นำ
"วัดปลอดเหล้า บุหรี่ การพนัน" หลายวัดได้ดำเนินการอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในพื้นที่จัดงานบุญ งานศพ. มีการนำศพมาจัดที่วัดเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงและค่าใช้จ่าย ซึ่งช่วยสร้างความสงบเรียบร้อยในงานพิธี และลดแรงเสียดทานทางสังคม. นอกจากนี้ ยังมีการรณรงค์เรื่องการไม่ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลในพื้นที่วัด เนื่องจากผิดศีลธรรม แม้ไม่ผิดกฎหมาย
3. สุขภาวะทางสังคม (Happy Life) ด้วยพลังแห่งการร่วมมือ
"พลังบวร" (บ้าน วัด โรงเรียน ราชการ) ถูกย้ำว่าเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนงานสุขภาวะในชุมชน. โดยวัดเป็นฐาน ชุมชนเป็นเกราะป้องกัน และฝ่ายปกครองเป็นเครื่องมือสนับสนุน. การทำงานร่วมกันนี้ช่วยให้โครงการต่างๆ ประสบความสำเร็จ เช่น วัดฉาเย็น ที่ได้รับรางวัลชุมชนคุณธรรมต้นแบบ และวัดบุตาในจังหวัดยโสธร ที่ได้รับรางวัลหมู่บ้านต้นแบบและศูนย์ศึกษาพุทธศาสนาวันอาทิตย์ต้นแบบ
มีการเน้นย้ำถึงการทำงานในเชิงนโยบายระดับอำเภอ เช่น การประกาศให้ทั้งอำเภอเป็นพื้นที่ส่งเสริม "บวชสร้างสุข" ซึ่งช่วยประหยัดเวลาและสร้างผลกระทบในวงกว้างได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการทำงานเพียงรูปเดียวหรือวัดเดียว
4. สุขภาวะทางปัญญา (Intelligent Age) ผ่านการเรียนรู้และเผยแผ่ธรรมะ
พระสงฆ์ได้เน้นย้ำถึงการใช้หลักพุทธธรรมเป็นเครื่องนำทางในการแก้ปัญหาสังคมที่ซับซ้อนและสอดคล้องกับยุคสมัย. การเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องของพระสงฆ์ การเป็นผู้เผยแผ่ธรรมะผ่านสถานีวิทยุธรรมะ, และการเป็นผู้นำทางความคิดในชุมชน ล้วนเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมปัญญา และการสร้าง "สัมมาทิฏฐิ" หรือความเห็นที่ถูกต้องให้แก่ญาติโยม มีการย้ำถึงความสำคัญของการเรียนรู้ระเบียบ หลักเกณฑ์ วิธีการ และกฎหมายต่างๆ เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับภาครัฐและเข้าถึงงบประมาณท้องถิ่นเพื่อการพัฒนาสุขภาวะได้อย่างถูกต้อง
บทสรุปและก้าวต่อไป เวทีแห่งการแลกเปลี่ยนครั้งนี้ ได้ตอกย้ำว่าพระสงฆ์นักพัฒนาในภาคอีสานตอนล่างหลายรูปได้ดำเนินงานด้านสุขภาวะมาอย่างยาวนานและเกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรมในหลากหลายมิติ. ประสบการณ์เหล่านี้เป็น "สายใยสำคัญ" ที่จะนำไปสู่การสังเคราะห์เป็น "โมเดลวัดสุขภาวะต้นแบบ" ที่ชัดเจน และสามารถขยายผลไปสู่ชุมชนอื่นๆ ได้อย่างกว้างขวาง. การทำงานในเชิงนโยบายจะช่วยประหยัดเวลาและสร้างผลกระทบในวงกว้างกว่าการทำงานเพียงรูปเดียวหรือวัดเดียว
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การศึกษา
Top 5 ข่าวการศึกษา ![]()
- ถักทอเครือข่ายพระสงฆ์นักพัฒนา อีสานล่าง ใช้ “ธรรมนำทาง สร้างสุขภาวะ” 14 ก.ย. 2568
- มก.จับมือ วช. และพันธมิตรเปิดเวทีบรรยาย-เสวนาในการประชุมนานาชาติ 14 ก.ย. 2568
- พระพรหมดิลก เป็นประธานพิธีถวายสังฆทาน 323 วัด 4 จังหวัดชายแดนใต้ ปีที่ 21 ครั้งที่ 181 14 ก.ย. 2568
- เด็กเชฟ ม.รังสิต คว้ารางวัลในเวที TICC 2025 ยกระดับ Soft Power อาหารไทยสู่เวทีแห่งชาติ 14 ก.ย. 2568
ข่าวในหมวดการศึกษา ![]()
138 ปี “มจร” สืบสาน รักษา ต่อยอด พระราชปณิธานล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ทรงให้เป็นสถานที่ “ศึกษาพระไตรปิฏก และวิชาชั้นสูง” 07:14 น.
- สถาปัตย์ ม.รังสิต จับมือ LPN ปั้นสถาปนิกยุใหม่ พัฒนาทักษะนักศึกษา ต่อยอดงานวิจัยจากห้องเรียนสู่ห้องทำงานจริง 21:11 น.
- มทร.พระนครเปิดคอร์สติวภาษาอังกฤษ เพื่อธุรกิจระดับสากล 15:51 น.
- พระสงฆ์อีสานล่างรวมพลัง ขับเคลื่อน “วัดสุขภาวะ” ลดปัจจัยเสี่ยงด้วยพุทธธรรม 15:14 น.
- เปิดตัว “The Media ” รุ่นที่ 7 หลักสูตรพัฒนาศักยภาพการใช้สื่อสำหรับผู้บริหารระดับสูงเพื่อความสำเร็จของธุรกิจยุคใหม่ 15:09 น.