ศบ.ทก. รายงานชายแดนไทย–กัมพูชา 7 จังหวัดปกติ กองทัพบกส่งทีมแพทย์ดูแลกำลังพล เลื่อนประชุม RBC สมัยวิสามัญเป็น 27 ส.ค. 68 – กต.ชี้กัมพูชาไม่จริงใจแก้ปัญหาทุ่นระเบิด

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2568 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ชายแดนในพื้นที่ 7 จังหวัดยังคงปกติ กองทัพไทยวางกำลังตามแนวที่มั่นทั้ง 11 พื้นที่ และเสริมรั้วลวดหนามเพื่อรักษาอธิปไตยของไทย

นอกจากนี้ กองทัพบกยังส่งทีมแพทย์ทหารลงพื้นที่เพื่อเยียวยาจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต รวมถึงตรวจสุขภาพกำลังพลตามฐานปฏิบัติการต่าง ๆ โดยย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญต่อทั้งสุขภาพกายและใจของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่แนวชายแดนมาอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกันศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แจ้งความคืบหน้า การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ไทย-กัมพูชา ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 โดยระบุว่า กองเลขาฯ ฝ่ายกัมพูชา ประสานขอเลื่อนการประชุม RBC สมัยวิสามัญ จากเดิม วันที่ 21 ส.ค. 68 เป็นวันที่ 27 ส.ค. 67 เพื่อมีเวลาเตรียมการประชุมเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นำเรียน พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) แล้ว ไม่ขัดข้องสำหรับการเลื่อนห้วงการประชุม RBC ตามที่ฝ่าย กัมพูชา เสนอ  ดังนั้น กองทัพภาคที่ 2 จึงขอเลื่อนการประชุมประสานการปฏิบัติ และการประชุม RBC สมัยวิสามัญ ดังนี้

1.วันที่ 25-26 ส.ค. 68 : ประชุมกองเลขาฯ
2.วันที่ 27 ส.ค. 68 : ประชุม RBC สมัยวิสามัญ
3.สถานที่ประชุมบริเวณ กึ่งกลางจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ

ด้านนายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงท่าทีของกัมพูชาในประเด็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคลว่า ยังขาดความจริงใจ เนื่องจากปฏิเสธข้อเสนอของไทยในการร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด และอ้างว่าความร่วมมือทำได้เฉพาะในพื้นที่ที่มีการปักปันเขตแดนแล้วเสร็จ ซึ่งขัดแย้งกับถ้อยแถลงที่กัมพูชาเคยอ้างว่าให้ความสำคัญกับการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม

โฆษก กต. ระบุว่า ท่าทีดังกล่าวเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) และสะท้อนถึงความย้อนแย้งระหว่างหลักการกับการปฏิบัติ โดยเฉพาะการที่ฝ่ายกัมพูชานำเสนอข้อมูลไม่ครบถ้วนเกี่ยวกับทุ่นระเบิด PMN-2 ที่ถูกพบในพื้นที่ฝั่งไทย ซึ่งอาจก่อให้เกิดความสับสนในประชาคมระหว่างประเทศ

กระทรวงการต่างประเทศยืนยันว่าจะเดินหน้าเรียกร้องให้กัมพูชาร่วมมือกับไทยอย่างจริงจัง ภายใต้กรอบอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ พร้อมเตรียมเชิญคณะทูตและองค์กรระหว่างประเทศลงพื้นที่เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงและกดดันให้กัมพูชาปฏิบัติตามพันธกรณีในฐานะรัฐภาคีอนุสัญญาดังกล่าว