สองผัวเมียตกงานจากพิษโควิด กลับอาศัยบ้านญาติที่บุรีรัมย์ หาหอยขมขายประทังชีวิต ผัวเกิดจมน้ำตายคาสระน้ำ เจ้าตัวร้องไห้ แทบขาดใจ ยิ่งช้ำใจหลังชาวบ้านเห็นผัวใกล้จมน้ำตายแต่คิดว่าผีหลอก

วันที่ 10 พ.ค.64 ร.ต.อ.จำรัส สืบสำราญ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.พุทไธสง อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งมีคนจมน้ำตายบริเวณบึงสร้างนาง หลังวัดเจริญ หมู่ 1  ต.พุทไธสง จึงประสานหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม ร่วมตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบนางจุฑามาศ คำภารินทร์ อายุ 58 ปี อยู่เลขที่ 145 หมู่ 9 ต.แวงดง อ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม ยืนร่ำไห้ด้วยความเสียใจ จนเป็นลมล้มพับหลายครั้ง เจ้าหน้าที่ต้องคอยปฐมพยาบาล ก่อนจะนำตัวส่งโรงพยาบาลพุทไธสง

ส่วนผู้จมน้ำคือนายคำเผย เสนาโครต อายุ 45 ปี สามีนางจุฑมาศ เจ้าหน้าที่ทำงานด้วยความลำบาก เนื่องจากเป็นบึงขนาดใหญ่เนื้อที่กว่า 70 ไร่ น้ำลึกกว่า 8 เมตร ชุดประดาน้ำได้ใช้เจ้าหน้าที่ลงค้นหาใต้น้ำนานกว่า 4 ชม. แต่ไม่พบ เนื่องจากน้ำลึกและเป็นที่กว้าง

นางจุฑามาศ เล่าว่า ตนกับสามี เปิดร้านขายของที่ จ.มหาสารคาม หลังจากโรคโควิดระบาด ขายของไม่ได้ จึงมาขออาศัยญาติอยู่ที่ อ.พุทไธสง เนื่องจากไม่มีบ้านอยู่ โดยหันมาหาหอยขมขาย เพื่อประทังชีวิต

โดยวันนี้มีคนสั่งหอยขม 20 กก.ตนกับสามี ได้แบ่งสายกันหาหอยงมรอบสระไปเรื่อยๆ และนัดมาเจอกันตรงร้านค้าเวลา 12.00 น.เมื่อถึงเวลานัดไม่เห็นสามี จึงพยายามตามหาและถามหาคนที่ผ่านไปมาแถวนั้น แต่ไม่มีใครพบ

จนกระทั่งทราบว่ามีคนเก็บผักขาย มาเล่าให้ฟังว่า “เจอผีหลอกอยู่กลางบึง” ลักษณะชูแขนขึ้นอยู่กลางบึงน้ำ จึงเอะใจรีบไปดูบริเวณที่ได้รับแจ้ง เห็นรองเท้า กับกาละมัง จึงมั่นใจว่าเป็นสามีที่จมน้ำ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยเหลือ

ด้าน น.ส.นฤมล แก่นหงส์ อายุ 25 ปี ลูกสาวนางจุฑามาศ เล่าว่า ผู้ตายเป็นพ่อเลี้ยง หลังจากตกงาน ได้เดินทางมาหา จึงหาบ้านเช่าให้ แล้วหาอาชีพด้วยการหาหอยขาย เพื่อประทังชีวิตไปก่อน เหตุการณ์ครั้งนี้คาดว่าพ่อเลี้ยงน่าเกิดจากอาการโรคลมชัก ซึ่งเป็นโรคประจำตัว จนจมน้ำเสียชีวิตดังกล่าว ล่าสุด (21.00 น.)หน่วยกู้ภัยยังค้นหาไม่เจอร่าง