จากกรณีที่เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2566 ที่มานายวินัย ดำแป้น เจ้าของรถบรรทุกโม่ปูนผสมคอนกรีต ได้นำรถบบรทุกโม่ปูนผสมคอนกรีต สิบ 10 ล้อ จำนวน 3 คัน 6 ล้อ จำนวน 1 คันหน้า บุกเข้ามาจอดบริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดพัทลุง โดยเมื่อผู้ขับขี่รถบบรทุกทั้ง 4 คัน ดับเครื่องยนต์จอดสนิท และผู้ขับขี่ทั้งหมดก็ได้ขึ้นรถยนต์กระบะ ที่มาจอดรับหนีออกไป เพื่อประท้วงได้รับความเดือดร้อนจากการไม่ได้รับการเบิกจ่ายเงินค่าทำถนนทางคู่ขนานถนนสายเอเชีย จากรัฐหน่วยของรัฐกว่า 40 ล้านบาท จากงบประมาณแผนพัฒนาจังหวัดกลุ่มภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ผ่านสำนักงานแขวงทางหลวงจังหวัดพัทลุง
 

ต่อมาในวันนี้ 29 มิถุนายน 2566 ได้มีการนัดเจรจาระหว่างผู้รับเหมางานระหว่าง นายวินัย ดำแป้น เจ้าของรถบรรทุกโม่ปูนผสมคอนกรีต กับเจ้าหน้าที่สำนักงานแขวงทางหลวงจังหวัดพัทลุง ปลัดจังหวัดพัทลุง และหัวหน้าสำนักงานจังหวัดพัทลุง เพื่อตกในเรื่องการเร่งรัดเบิกจ่ายเงินส่วนที่เหลือตามปริมาณงานให้กับผู้รับเหมา เนื่องจากผู้รับเหมาได้รับความเดือดร้อนไม่มีเงินจ่ายให้กับลูกน้อง ซึ่งในวันนั้นผู้รับเหมาก็ยินดีหากมีการเร่งรัดจ่ายเงินดังกล่าว แต่เมื่อระยะเวลาเลยมาจำนวน 23 วัน ยังไม่มีการเบิกจ่ายเงินให้กับผู้รับเหมาในวันนี้จึงได้นำคนงานเกือบ 40 คน มาประท้วงขอความเป็นธรรมกับผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง โดยมีการยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมผ่านนายอภิชาติ สาราบรรณ์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดพัทลุง
 

จากนั้นได้มีการตั้งตัวแทนผู้ประท้วง ขอควาเป็นธรรมเจรจา กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้อำนวยแขวงทางทางหลวงจังหวัดพัทลุง เจ้าหน้าที่สำนักงานแขวงการทางจังหวัดพัทลุง หัวหน้าสำนักงานจังหวัดพัทลุง และเจ้าหน้าที่สำนักงานจังหวัดพัทลุง โดยใช้เวลาเจรจา 2 ชั่วโมง ซึ่งมีนายณรงค์ อ่อนอินทร์ เจ้าหน้าที่สำนักงานจังหวัดพัทลุง ลงมาชี้แจงกับผู้ประท้วงให้รับทราบว่าขั้นแรกเริ่มเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงจังหวัดพัทลุง ได้ทำผิดระเบียบขั้นตอนงานจึงไม่สามารถเลิกจ่ายเงินส่วนที่เหลือได้ ซึ่งขั้นตอนที่ผิดระเบียบ นั้นทางจังหวัดพัทลุงได้ส่งเรื่องไปยังกระทรวงมหาดไทย พิจารณาอยู่เนื่องจากเป็นงบประมาณแผนพัฒนาจังหวัดกลุ่มภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย หากกระทรวงพิจารณาส่งเรื่องกลับมา ก็จะสามารถเบิกจ่ายให้กับรับเหมาได้ภายใน 3 วัน ซึ่งผู้ประท้วงก็พอใจในเบี้องต้น จึงแยกย้ายกลับ
 

ทางด้านนายณรงค์ อ่อนอินทร์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์และข้อมูลเพื่อการพัฒนาจังหวัด ได้กล่าวกับผู้ชุมนุมประท้วง ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดฯว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นมาจากการทำผิดระเบียบของแขวงทางหลวงพัทลุง เนื่องจากบางขั้นตอนมิได้มีการมอบอำนาจให้แขวงฯลงนาม เนื่องจากงบดังกล่าวเป็นงบกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ซึ่งในขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการประสานงานกับกระทรวงมหาดไทยว่าเรื่องดังกล่าวระหว่าง ผวจ.พัทลุง กับ ผวจ.สุราษฎร์ธานี ใครจะมีอำนาจในการลงนามในการแก้ปัญหาและการอนุมัติการเบิกจ่ายเงิน ขณะนี้กำลังรอคำตอบจากกระทรวงมหาดไทย หลังจากที่กระทรวงมหาดไทยแจ้งหนังสือลงมาทางแขวงทางหลวงพัทลุงก็จะได้ดำเนินการเบิกจ่ายเงินให้ผู้รับเหมาทันที โดยมีเงินที่ค้างจ่ายประมาณ 19 ล้านบาท
 

ในขณะที่บรรดาคนงานที่มาชุมนุมประท้วงต่างพึงพอใจของการชี้แจงในครั้งนี้ โดยบอกว่าพวกตนสบายใจขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาไม่มีเงินค่าเช่าบ้าน เงินที่ใช้ในแต่ละวันก็ไม่มี จากนั้นก็ได้แยกย้ายกันกลับบ้านโดยไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้น