วันพุธ ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2568 11:51 น.

ภูมิภาค

บุกร้องทนายข้ามจังหวัด ถูกทนายEMหลอกเงินสูญกว่า 2 แสน

วันจันทร์ ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2567, 13.51 น.

อำเภอนาโพธิ์//ชาวบ้าน จ.ศรีสะเกษ เดินทางมาร้องทุกข์ต่อทนายความที่บุรีรัมย์ ถูกบบุคคลอ้างเป็นทนาย จะว่าความคดีให้เสียหายแล้ว 3 ราย ผู้เสียหายแค้นตอนไปทนายไปเยี่ยมบ้านเห็นกำไร EM ชัดบอกว่าเป็น “นาฬิกาข้อเท้า” ขณะทนายอั๋นระบุเบื้องต้นไม่น่าเชื่อว่าเป็นทนายความ เป็นมิจฉาชีพที่ใช้สถานที่ของศาลไปหลอกชาวบ้าน
 

วันที่ 18 มี.ค.67 ชาวบ้าน ต.คอนกาม อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ 3 คน ได้เดินทางจากจังหวัดศรีสะเกษ ไปพบนายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ ที่ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ เพื่อต้องการขอความช่วยเหลือหลังจากถูกบุคคลที่อ้างว่าเป็นทนายความหลอกเอาเงินไปกว่า 200,000 บาท
 

นางหนูสมาน มะณีวงศ์ อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 ม.5 ต.คอนกาม อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ เล่าว่า ตนเองมีคดีความเรื่องที่ดินมรดกกับภรรยาน้อยของพ่อ คือแย่งเอาที่ดินจำนวน 3 ไร่ แต่รู้สึกว่าตนเองจะเสียเปรียบ ตอนนั้นอยู่ในบัลลังก์ศาล ตนได้ก้มกราบศาลขอความยุติธรรม ตอนนั้นเจ้าหน้าที่และผู้พิพากษา ให้ลุกขึ้น
 

หลังจากนั้นได้มีชายคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ในบัลลังก์ด้วยกัน อายุประมาณ 40 ปีเข้ามาประคอง พร้อมกับบอกว่า “ผมจะช่วยเหลือเอง” จนกระทั่งรู้จักกันแล้วตามมาหาที่บ้านโดยทนายคนดังกล่าวแนะนำตัวบอกว่า “ผมชื่อทนาย ป.” พร้อมมอบนามบัตรให้
 

จากนั้นทนายป. ได้ขอเงินค่าดำเนินการครั้งแรก 60,000 บาท ตนก็ให้ไปเพราะอยากชนะคดี หลังจากนั้นเรียกเงินครั้งละ 20,000-40,000 บาท รวมทั้งหมดเป็น 200,000 บาท
 

นางหนูสมาน เล่าอีกว่า หลังจากเสียเงินไปครบแล้ว ทนายได้มาเยี่ยมที่บ้าน ทนายป.ใส่กางเกงขาสั้นมาหาที่บ้าน ตนสังเกตเห็นข้อกำไรอยู่ข้อเท้า จึงถามทนายว่า “ทนายใส่กำไรอะไร” ทนายบอกว่า “อ๋อนาฬิกาข้อเท้า” มาถึงตอนนี้ยิ่งคิดยิ่งเจ็บใจหลังจากเอานามบัตรมาดู พบว่าเป็นนามบัตร “รับเช่าพระเครื่อง” ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเป็น “ทะแนะ” ไม่ใช่เป็นทนายตามที่กล่าวอ้าง แต่ทำอย่างไรได้เพราะเสียเงินไปแล้ว จึงมาร้องทนายอั๋นที่บุรีรัมย์ เพื่อให้ช่วยเหลือ
 

เช่นเดียวกับพระสริตร์ จันทะชัย อายุ 61 ปี พระลูกวัดบ้านโนนแดง ต.คอนกาม อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ เล่าว่า รู้จักทนาย ป. เพราะน้องสาวคือนางหนูสมาน มาเอาเงินที่ฝากไว้เพื่อเอาไปให้ทนายแป๊ะ
 

จึงปรึกษาทนาย ป. เรื่องอยากให้ทนายช่วยเรื่องหลักฐานที่ดินของสำนักสงฆ์ ให้ได้มีเลขที่เพราะจะได้ยกฐานะเป็นวัด ทนาย ป.เรียก 35,000 บาท จึงมัดจำไป 10,000 บาท พร้อมกับเอาหลักฐานสมุดคู่มือรถเก๋งฝากทนาย ป.ไปต่อทะเบียน ฝากเงินไปอีก 3,000 บาท หลังจากนั้นติดต่อไม่ได้เลย
 

สุดท้ายยังพบว่ามีนายอาน จันทะชัย อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 ม.11 ต.คอนกาม อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ ที่ให้ทนายช่วยเหลือเปลี่ยนหลักฐานที่ดินจาก น.ส.3 ก มาเป็นโฉนด ทนายเรียกเงิน 10,000 แล้วเงียบหายไปเช่นเดียวกัน
 

ด้านนายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น กล่าวว่าเท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้นคนที่เป็นทนายความนิสัยไม่น่าจะเป็นแบบนี้ ไม่ได้ให้เซ็นต์แต่งตั้งให้เป็นทนายความ ไม่เคยใส่ชุดทนายความ โดยวิสัยทั้งหมดทนายไม่ทำแบบนั้น
 

พฤติกรรมดังกล่าวส่วนตัวคิดว่าชั่วมาก สาเหตุมาจากช่วงหลังกระบวนการยุติธรรมมันมีปัญหาประชาชนผู้ยากไร้เข้าถึงประบวนการยุติธรรมไม่ได้ แต่คนคนนี้กลับไปหากินกับคนยากจน ผู้ยากไร้ หาช่องว่างตรงนี้ไปหากิน
 

นายภัทรพงศ์ กล่าวด้วยว่า เบื้องต้นจะทำการตรวจสอบ หากพบว่าเป็นทนายความจริง ก็จะไปร้องต่อสภาทนายความ แต่หากไม่เป็นทนายจะดำเนินการทางด้านคดี คือฉ้อโกงแอบอ้างว่าตนเป็นทนายความสามารถทำคดีได้ ทำให้ผู้เสียหายเข้าใจผิดหลงเชื่อว่าเป็นทนายความ แล้วสูญเสียเงินไป
 

ส่วนที่สอง คือการแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ศาล ถึงแม้จะไม่ได้พูดตรงๆก็ตาม แต่พฤติกรรมทำเหมือนรู้ว่าตนเองเป็นคนในสามารถวิ่งเต้นคดีได้ โดยจะพาผู้เสียหายไปร้องต่อศาลที่เป็นคดีว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดศาลหรือไม่

หน้าแรก » ภูมิภาค