เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งมีคนตกบ่อลึกประมาณ 7 เมตร ที่บ้านเขาชวาลา หมู่ที่7 ต. คันธุลี อ.ท่าชนะ จ. สุราษฎร์ธานี จึงประสานหน่วยกู้ภัยและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายระดมกำลังช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว รอบๆบ้านเป็นสวนปาล์มน้ำมันห่างจากบ้านประมาณ1 เมตรมีบ่อน้ำอยู่ใกล้ๆกับสวนกล้วย ซึ่งเป็นบ่อน้ำที่ขุดไว้ใช้ ในยามหน้าแล้ง ความลึกประมาณ 7 เมตร ประมาณ 20 ปล่องบ่อ ทราบชื่อผู้ที่อยู่ในบ่อน้ำคือ นายครรชิตพล อายุ 33 ปี  ต.คันธุลี อ.ท่าชนะ  จ.สุราษฎร์ธานี สภาพอยู่ในท่านั่งที่ใช้มือและขาทั้งสองข้าง ยันไว้กับปล่องบ่อ บริเวณลำตัว แช่น้ำอยู่ลอยคอ เจ้าหน้าที่กู้ภัยและลุงคนที่พบเห็น ได้ทำการช่วยเหลือเบื้องต้นด้วยการสูบน้ำออกจากบ่อจนแห้ง และได้ลงไปช่วยเหลือ ด้วยการลงโดยใช้ไม้ไผ่ที่มีแขนงคล้ายบันไดค่อยๆลงไปอย่างช้าๆแล้วใช้เชือกผูกพยุงตัวและค่อยๆดึงขึ้น ในขณะที่กำลังช่วยอยู่นั้น นายครรชิตพลก็ยังพูดจาคนเดียวฟังไม่ค่อยได้ศัพท์ พร่ำเพ้ออยู่ตลอดจนกระทั่งนำตัวนายครรชิตพล ขึ้นมาได้ มือและขาซีดเซียว สภาพอิดโรยอ่อนแรง ปลอดภัยดี เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลท่าชนะเพื่อตรวจอาการอย่างละเอียดอีกครั้ง

จากการสอบถาม ลุงเล็ก ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุง เล่าว่าปกตินายครรชิตพล จะอยู่บ้านหลังนี้คนเดียว เพราะ พ่อแม่แยกทางกัน แต่รอบๆบ้านก็จะมีญาติพี่น้อง อยู่ใกล้ๆกัน และมีลุง หรือญาติพี่น้องแวะมาหา เอากับข้าวมาให้ทุกวัน ก่อนหน้านี้ 3 วัน ลุงเล็ก ก็มาปกติเหมือนทุกวัน แต่ก็ไม่พบเจอหลานจึงได้ออกตามหาตามบริเวณใกล้เคียงแต่ไม่พบเจอ จนวันนี้ที่ครบ3วันที่หาตัวหลานยังไม่เจอ ตั้งใจจะรดน้ำต้นไม้เลยตะโกนเรียกญาติอีกคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ จึงได้ยินเสียงขานรับ แต่กลับเป็นเสียงหลานตนที่อยู่ใกล้ๆ กับที่ตนเองเรียก จึงได้เดินมาดูที่บ่อน้ำ ปรากฏว่าเห็นหลานอยู่ในท่าที่ลอยคออยู่ในบ่อจึงได้ทำการสูบน้ำและรีบแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย และช่วยเหลือนำตัวหลานขึ้นมาได้

ลุงเล็ก เล่าต่อว่า นายครรชิตผล มีอาการทางจิต หลอนหวาดระแวง เหม่อลอยบ่อยครั้ง พูดคนเดียวอยู่เป็นประจำ ซึ่ง ได้รับการรักษาจากโรงพยาบาล และ กินยาอยู่ตลอดแต่ตนเองก็ไม่แน่ใจว่าหลานจะกินทุกครั้งหรือไม่ บางทีก็เดินจนต้องแจ้งตำรวจและถูกนำตัวมาส่งกับตนหลายครั้ง และครั้งนี้ไม่คิดว่า หลาน จะหลอน จนกระโดดลงไปในบ่อน้ำ และโชคดี ที่หลาน ไม่เป็นอะไรมาก ยังมีชีวิตรอด.