วันศุกร์ ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2568 16:30 น.

ภูมิภาค

กมธ.วิสามัญวุฒิสภา ลงพื้นที่ตราดติดตามสถานการณ์ปัญหาหลักเขตแดนไทย - กัมพูชา MOU 43-MOU 44

วันพฤหัสบดี ที่ 09 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 19.09 น.

เวลา 15.00 น.วันที่ 9 ตุลาคม 2568 ที่หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินที่ 182 (ฉก.นย.ที่ 182หาดเล็ก) ต.หาดเล็ก ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด นายนพดล อินนา ประธานกรรมาธิการวิสามัญศึกษาดูงานและติดตามเกี่ยวกับสถานการณ์ปัญหาหลักเขตแดนไทย - กัมพูชาMOU-43และMOU-44 ที่ตราด เพื่อพิจารณาข้อดีข้อเสียยกเลิก MOU-43และMOU-44 เพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนไทย - กัมพูชา วุฒิสภา และคณะกรรมาธิการ เดินทาง มาที่ฉก.นย.ที่ 182หาดเล็ก มีน.อ.ธรรมนูญ วรรณา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด (ผบ.ฉก.นย.ตราด)และผบ.ฉก.นย.ที่ 182 และนายเชิดศักดิ์ ชุ่มนาเสียว นายอำเภอคลองใหญ่ และส่วนราชการชายแดนร่วมต้อนรับ 

 นายนพดล กล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้เพื่อศึกษาปัญหาเขตแดนไทยกัมพูชาตามบันทึกความเข้าใจ (MOU) 2543 และบันทึกความเข้าใจ (MOU) 2544 ที่ไทยและกัมพูชาได้ทำข้อตกลงกันไว้ และมีปัญหาเกิดขึ้นทั้งในพื้นที่ทางบก และทะเลเพื่อนำไปพิจารณาในเรื่องที่กรรมาธิการต้องการไปเป็นข้อสรุปในการนำเสนอให้วุฒิสภาและรัฐบาลต่อไป 

 จากนั้น น.อ.ธรรมนูญ วรรณาได้บรรยายสรุปสภาพปัญหาต่างๆด้วยพาวเวอร์พอยท์ที่แสดงถึงปัญหาพื้นที่ทั้งทางบกและทางน้ำเพื่อใหีเกอดความเข้าใจรวมทั้งชค้ให้เห็นถึงการละเมิด MOU 2543 และMOU 2544 เพื่อให้เกอดความเข้าใจในสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดของทั้งจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราด โดยใช้แผนที่ด้านความมั่นคงได้อธิบาย รวมทั้งเรื่องสนธิสัญญาที่ฝรั่งเศสได้ทำร่วมกับฝ่ายไทยในการกำหนดเขตแดนขึ้น 

 หลังจากนั้น นายนพดล อินนา และคณะได้เดินทางไปยังที่ตั้งหลักเขตที่ 73 และได้ ผบ.ฉก.นย.ที่ 182 ได้อธิบายตามแผนที่ได้แสดงให้เห็นสภาพของการรุกล้ำแะละการประกาศเขตทางทะเลของกัมพูชาที่แตกต่างจากไทยทำให้เกิดพื้นที่ทับซ้อนขึ้น กรรมาธิการวุฒิสภาลุยชายแดนตราด! ชี้เห็นปัญหา "หลักเขต 73" ชัดเจน หวังข้อมูลวิทยาศาสตร์ตัดสินชะตา MOU 2543 หลังจบการบรรยายทั้งหมดแล้ว

นายนพดล เปิดเผยว่า วุฒิสภาเร่งเครื่องพิจารณาประเด็นบันทึกความเข้าใจ (MOU) 43 และ 44 ที่ยืดเยื้อมานานกว่า 20 ปี โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้ลงพื้นที่สำรวจข้อเท็จจริงบริเวณชายแดนจังหวัดตราดเป็นครั้งแรก หลังจากการพิจารณาจากเอกสารในห้องประชุมมาแล้ว 5 ครั้ง ยืนยันการใช้ข้อมูลจริงและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เป็นฐานในการตัดสินใจว่าจะเสนอให้ยกเลิกหรือคงอยู่ซึ่ง MOU ดังกล่าว 

ประธานคณะกรรมาธิการฯ ระบุว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากทำให้ได้เห็นสภาพจริงของพื้นที่ตาม MOU 44 (ทางทะเล)ก่อนจะสำรวจพื้นที่ทางบกตาม MOU 43 ต่อไป ซึ่งข้อมูลที่ได้รับจากผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจังหวัดตราด ยืนยันว่ามีการละเมิดข้อ 5 ของ MOU 43 (ห้ามเปลี่ยนแปลงสภาพ)หลายครั้ง ซึ่งฝ่ายไทยได้ประท้วงไปแล้ว 
นอกจากนี้ การลงพื้นที่ยังทำให้เห็นปัญหาที่แท้จริงของ หลักเขตที่ 73ซึ่งเป็นประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายยังตกลงกันไม่ได้อย่างชัดเจน แม้จะมีข้อตกลงตั้งแต่สมัยฝรั่งเศสก็ตาม

 “คณะกรรมาธิการฯ ยืนยันถึงความมุ่งมั่นที่จะรวบรวมข้อเท็จจริงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับ MOU 43/44 ย้อนหลังไปถึง 242 ปี โดยจะเน้นการใช้ หลักฐานที่เป็นวิทยาศาสตร์และนิติวิทยาศาสตร์ในการวิเคราะห์อย่างรอบด้าน ไม่ใช้อารมณ์ในการตัดสินใจ โดยจะมีการรวบรวมข้อมูลจากหลากหลายมิติ ทั้งมติคณะรัฐมนตรีในอดีต, ข้อมูลการเดินสำรวจของกรมแผนที่ทหาร และข้อมูลที่มีชั้นความลับ”นายนพดลกล่าว 

 นายนพดลกล่าวอีกว่า เพื่อความสมบูรณ์ของรายงาน คณะกรรมาธิการฯ เตรียมเชิญผู้เกี่ยวข้องในอดีตหลายท่านมาให้ข้อมูล เช่น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเคยมีดำริเสนอ ครม. ให้ยกเลิก MOU 44 รวมถึงผู้เชี่ยวชาญจากกองทัพเรือ และกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์ร่วมกัน โดยประธานคณะกรรมาธิการฯ เน้นย้ำว่า การพิจารณาจะยึดถือ ผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้งเท่านั้น เนื่องจากคณะกรรมาธิการฯ ชุดนี้ไม่ได้สังกัดพรรคการเมือง จึงรับประกันความเป็นกลางในการศึกษา 

 ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯ จะไม่รอให้รายงานเสร็จสมบูรณ์ทั้งหมด แต่จะนำความคืบหน้าเสนอต่อวุฒิสภาและเผยแพร่ต่อประชาชนเป็นระยะ โดยกำหนดการสำคัญคือการรายงานความคืบหน้าต่อวุฒิสภาในช่วงก่อนปิดสมัยประชุม ประมาณวันที่ 27 หรือ 28 ตุลาคมนี้ ซึ่งจะเป็นการประชุมแบบเปิดเผย เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลและเข้าใจในรายละเอียดไปพร้อมกับสมาชิกรัฐสภา โดยหวังว่าข้อมูลที่เป็นกลางและรอบด้านนี้ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการตัดสินใจของประชาชน หากมีการทำประชามติในอนาคต และเป็นฐานข้อมูลที่สำคัญให้แก่คณะรัฐมนตรีในการตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่าจะ ยกเลิก หรือ ไม่ยกเลิก MOU 43/44 ต่อไป 

 สำหรับคณะกรรมาธิการวิสามัญฯชุดนี้ยังไดีเดินทางไปยังอำเภอเกาะกูด และอำเภอเกาะช้างเพื่อรับฟังปัญหาต่างๆในด้านความมั่นคง และความปลอดภัยระหว่สงวันที่ 10-11 ตุลาคม 2568 หลังจากนั้นจะเดินทางกลับในบ่ายวันที่ 11 ตุลาคม 2568

หน้าแรก » ภูมิภาค