วันศุกร์ ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2568 16:26 น.

ภูมิภาค

อดีตหลานโต้“หลวงตาสุจย์” อย่าหิวแสง ปมขู่ปิดร้านกาแฟคนไทยในกัมพูชา

วันพฤหัสบดี ที่ 09 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 20.11 น.

วันที่ 9 ตุลาคม 2568-จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก “ชุมชนคนสุรินทร์” โพสต์คลิปวิดีโอของ หลวงตาสุจย์ หรือ พระมหานรินธร ปสนังโน อายุ 61 ปี พระนักเทศน์ชื่อดังในพื้นที่อีสานใต้ ซึ่งเคยถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังออกมาไลฟ์สดสนับสนุนทหารกัมพูชา และกล่าวพาดพิงคนจังหวัดสุรินทร์ จนต่อมาได้รับคำเชิญจาก ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ให้ย้ายไปอยู่ที่ประเทศกัมพูชา ปัจจุบันหลวงตาสุจย์ยังไม่ได้เดินทางกลับประเทศไทย

ในคลิปดังกล่าว หลวงตาสุจย์ระบุถึงร้านกาแฟแห่งหนึ่งของคนไทยในกัมพูชาว่า “เป็นร้านอาหารของคนไทยที่มาเปิดในกัมพูชา ผมก็ให้เกียรติ ไม่เคยกลั่นแกล้ง แต่ถ้าคนไทยยังด่าผมทุกวันอยู่อย่างนี้ ร้านนี้อยู่ไม่ได้หรอก หลายสาขาในกัมพูชาปิดตัวลงแน่นอน”

ข้อความนี้สร้างกระแสวิพากษ์ในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังร้านกาแฟ “361” หนึ่งในร้านของคนไทยที่เปิดกิจการในประเทศกัมพูชา เพื่อสอบถามความเห็นของลูกค้าเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว

คุณโม อายุ 36 ปี ลูกค้าที่มานั่งดื่มกาแฟ เปิดเผยว่า “ได้ยินข่าวหลวงตาสุจย์จะปิดร้านกาแฟ ก็รู้สึกเฉยๆ ไม่ได้มีผลอะไรกับตน เพราะมากินประจำอยู่แล้ว กาแฟและอาหารอร่อยถูกปาก การจะมาสั่งปิดร้านมันไม่ใช่กิจของสงฆ์ เงินลงทุนก็เป็นของเจ้าของร้าน พระน่าจะเข้าใจอะไรผิดมากกว่า อยากฝากหลวงตาให้กลับไปทำกิจของสงฆ์ดีกว่า เรื่องแบบนี้ไม่เหมาะกับสมณเพศ”

ด้าน คุณนก อายุ 40 ปี ลูกค้าอีกคนที่มาทานในวันเดียวกัน กล่าวว่า “หลวงตาอาจเข้าใจอะไรผิด ธุรกิจร้านกาแฟเป็นเรื่องของฆราวาส ไม่เกี่ยวกับสงฆ์ จะชอบหรือไม่ชอบก็เป็นสิทธิ์ของลูกค้า การพูดว่าจะสั่งปิดร้านคนไทยในกัมพูชา ถือว่าไม่เหมาะสม โดยเฉพาะในฐานะพระซึ่งควรสงบสำรวม เราเป็นชาวพุทธก็เคารพพระ แต่ก็ต้องดูด้วยว่าพระรูปนั้นมีความเหมาะสมให้เคารพหรือไม่”

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ นางสำรวม อายุ 50 ปี อดีตหลานสาวของหลวงตาสุจย์ ซึ่งเคยทำพิธีตัดขาดความเป็นญาติกันเมื่อ 3 เดือนก่อน หลังเกิดเหตุหลวงตาสาปแช่งคนสุรินทร์

นางสำรวมเผยว่า “ตอนแรกไม่อยากยุ่ง แต่พอเห็นคลิปล่าสุดแล้วทนไม่ได้ เพราะหลวงพี่พูดยั่วยุ ทั้งที่ตัวเองก็เคยเกิดและโตในสุรินทร์ อยากให้ท่านอยู่สงบ ๆ เหมือนพระทั่วไป ไม่มีใครใส่ร้ายหรอก ท่านทำตัวเองทั้งนั้น เหมือนครั้งก่อนที่พูดยุยงให้ยิงคนสุรินทร์ แล้วต่อมาก็เกิดเหตุยิงกันจริง ๆ เรื่องร้านกาแฟก็ไม่ใช่กิจของสงฆ์ อย่ามายุ่งเรื่องทางโลกเลย อยากฝากว่าอย่าหิวแสงมากนัก ถ้ายังพูดและทำแบบนี้ต่อไป สึกออกมาจะดีกว่า เสียดายผ้าเหลือง”

 

 

หน้าแรก » ภูมิภาค