เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 30 ก.ค.63พ.ต.อ.ณรงค์ลักษณะวิมลผกก.สภ.เมืองกระบี่พร้อมด้วย พ.ต.ท.อรุณสุขปาน สวป.สภ. เมืองกระบีพ.ต.ท.สัญญาธรรมรัตน์รอง.สว.สืบสวน สภ.เมือกระบี่พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานแพทย์เวรโรงพยาบาลกระบี่และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกระบี่พิทักษ์ประชาเข้าตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 217 ม.7 ต.ทับปริก อ.เมือง จ.กระบี่หลังรับแจ้งเหตุคนยิงตัวตายสภาพบ้านที่เกิดเกตุเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้บนห้องนอนชั้นสองของบ้าน พบศพผู้เสียชีวิต ทราบชื่อต่อมานายวราเชษฐ์รักเกื้ออายุ 46ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 ม.1ต.ทับปริก เจ้าของบ้านสภาพศพนอนหงายจมกองเลือดแพทย์ชันสูตรมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าที่ปากจนฟันหน้าหัก กระสุนทะลุกลางศีรษะ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ชม. เนื่องจากเลือดผู้ตายแข็งตัวบนร่างผู้ตายพบอาวุธปืนลูกซองยาวตกอยู่ 1 กระบอกเจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

 

สอบสวนนางสาวสุพัตราเบิกนาอายุ 40 ปีภรรยาผู้ตาย ทราบว่าอยู่กินกับผู้ตายมาประมาณ 7 ปีแล้วและอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว กับผู้ตายสองคนก่อนเกิดเหตุเมื่อคืนที่ผ่านมา ผู้ตายได้กลับมาบ้านในสภาพเมาหนัก ตนจึงต่อว่า ทำให้เกิดมีปากเสียงกันรุนแรงจากนั้นผู้ตายก็ขว้างเก้าอี้ล้มระเนระนาด ตนรู้สึกรับไม่ได้ และบอกไปว่า ถ้าเป็นแบบนี้ตนอยู่ไม่ได้แล้ว เพราะที่ผ่านมา ไม่เคยเมาทะเลาะกันรุนแรง จากนั้นจึงได้ขับรถออกจากบ้านและไปจอดนอนที่ปั้มน้ำมันในตัวเมืองพอวันรุ่งขึ้นตนก็กลับมาบ้าน เพื่อจะมาเปลี่ยนรถออกไปเร่ขายเนื้อหมู ตามปกติและเห็นว่าไฟในบ้านยังเปิดอยู่ จึงบอกให้ลูกชายซึ่งเป็นลูกกับอดีตสามี ไปปิดไฟที่ชั้นสองบ้านหลังที่เกิดเหตุ แต่พอลูกชายเดินขึ้นไปปิดไฟ บนชั้นสอง ก็พบว่าสามียิงตัวตายนอนเสียชีวิตแล้ว

 

ด้านพ.ต.อ.ณรงค์กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่า ก่อนหน้านี้ผู้ตายเปิดบริษัททัวร์ แต่ช่วงที่มีการระบาดโควิด-19 ก็ต้องปิดกิจการชั่วคราว และต้องมาช่วยภรรยาเร่ขายเนื้อหมูแทน คาดว่าผู้ตายคงจะเกิดความเครียดเนื่องจากไม่มีรายได้จาการทำทัวร์ เหมือนเมื่อก่อนทำให้เกิดความเครียด จนดื่มเหล้าบ่อยๆและหลังภรรยาออกจากบ้านเมื่อคืนที่ผ่านมาทำให้ผู้ตายเกิดความเครียดมากขึ้นจึงถึงขั้นคิดสั้นฆ่าตัวตาย โดยใช้อาวุธปืนลูกซองยาว จ่อปากและใช้เท้าข้างที่ถนัดเกี่ยวยิงกรอกปากตัวเองดังกล่าวแต่อย่างไรก็ตามจะได้ให้เจ้าหน้าที่สอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง