วันศุกร์ ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567 16:23 น.

ภูมิภาค

หลวงพี่มือโพสต์ กราบขออภัย ก่อนขอย้ายวัด หลังโพสต์ภาพพระมหาดื่มเบียร์

วันอังคาร ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2562, 00.17 น.

จบลงเรียบง่าย พระมือโพสต์ มหาดื่มเบียร์ กลับวัดไปขอขมารักษาการเจ้าอาวาส พร้อมขอย้ายไปจำวัดแห่งอื่น โดยผอ.สน.พุทธนครปฐม แจง เหตุที่มีการแจ้งให้สึกเพราะรักษาการเจ้าอาวาส เป็นพระอุปปัชฌาย์ มีผลดูผูกพันกัน 5 ปี ไม่ได้กดดันไล้สึกให้พ้นวัด
               

วันนี้ 24 มิ.ย. 62 จากกรณี พระมานะ พระลูกวัดสามง่าม อ.ดอนตูม จ.นครปฐม ได้มีการโพสต์ภาพในโลกโซเชียล ปรากฏเป็นภาพพระมหาสมพล นั่งดื่มเบียร์ อยู่ในกุฏิกระทั่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมกับภาพที่ปรากฏ ต่อมา พระศรีธีรวงษ์ รักษาการเจ้าอาวาสวัดสามง่าม เจ้าคณะอำเภอดอนตูม พร้อมด้วยนายบุญเชิด กิตติธรางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม ได้มีเชิญตัว อดีตพระมหาสมพล มาทำการสอบสวนซึ่งเจ้าตัวได้ขอลาสิกขาไปตั้งเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ที่ผ่านมา กระทั่งที่ผ่านมามีกระแสว่ารักษาการเจ้าอาวาสวัดสามง่ามนั้นได้มีการสั่งให้พระมานะนั้นทำการสึกออกไปจาก 3 ฐานความผิด ซึ่งส่งผลให้พระมานะได้หลบออกมาจากวัดเนื่องจากไม่อยากที่จะลาสิกขาและร้องต่อสื่อขอความเป็นธรรมในเรื่องดังกล่าว
               

โดย ช่วงสาย พระมานะ ได้เดินทางไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม เพื่อพบกับนายบุญเชิด กิตติธรางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม เพื่อขอให้ทำการช่วยเหลือเนื่องจากหลังจากได้หลบออกมาจากวัดก็ไม่มีที่พักและยังไม่รู้ว่าจะมีการดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไรหลังจากตกเป็นข่าวดังในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา
               

ซึ่ง นายบุญเชิด กิตติธรางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม ได้สอบถามข้อมูลทั้งหมดพร้อมประสานงานกับ ทางพระศรีธีรวงษ์ รักษาการเจ้าอาวาสวัดสามง่าม เจ้าคณะอำเภอดอนตูม เนื่องจากเป็นผู้บังคับบัญชา และยังเป็นพระอุปัชฌาย์ให้กับพระมานะ ซึ่งได้แจ้งความประสงค์ว่าจะไม่ขอลาสิกขาแต่จะขอย้ายวัดไปจำวัดที่แห่งอื่นเพื่อบวชเรียนต่อไป
             

ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม กล่าวว่าหลังการประสานงาน ก็ทราบว่าเรื่องที่มีการสั่งการให้ทำการสึกนั้นเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันเพราะการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน เนื่องจาก พระศรีธีรวงษ์ นั้นเป็นพระอุปัชฌาย์ให้กับพระมานะโดยตรง ในทางสงฆ์ ถือว่ามีความผูกพันกันเหมือนลูกกับพ่อ  ซึ่งพระมานะถือเป็นพระบวชใหม่ พระอุปัชฌาย์มีความผูกพันกันตามหลัก 5 ปี ซึ่งถ้าพระมานะไปทำผิดที่ไหนก็จะต้องถูกส่งกลับมาให้พระอุปัชฌาย์อยู่ดี ซึ่งในเรื่องการไม่อยากสึกนั้นไม่ได้ขัด แต่หากจะย้ายไปวัดอื่นความผูกพันก็ยังมีความเชื่องโยงกันอยู่ดี ท่านจึงอยากจะให้ลาสิกขาให้ขาดกันไป ซึ่งหากพระมานะไปกระทำความผิดที่อื่นหากย้ายวัดไปก็จะไม่มีความผูกพันที่ต้องมาตรวจสอบควรปล่อยให้วัดแห่งใหม่ที่จะไปบวชนั้นเป็นผู้ดูแลก็จะมีความเหมาะสมกว่า
               

เรื่องที่ พระมานะแสดงตัวในการออกมาปกป้องพระพุทธศาสนานั้นตนเองชื่นชมว่าเป็นเรื่องดีที่ต้องการจะให้พระพุทธศาสนานั้นมีความน่าเชื่อถือและเป็นที่ศรัทธาของประชาชน แต่ขอแจ้งให้ทั้งพระมานะหรือพระภิกษุสงฆ์ในจังหวัดนครปฐมทราบว่าหากมีหลักฐาน ให้ส่งตรงมาที่ตนเองซึ่งตนยืนยันว่าจะทำงานแบบตรงไปตรงมาและจะเข้าตรวจสอบในเรื่องนั้นๆทันที ซึ่งกาโพสต์ออกไปก่อนมีการมาพูดคุยกัน และพาดพิงไปยังบุคคลที่สามนั้นอาจจะทำให้ผู้นั้นไม่สามารถมาแก้ข้อหาได้
               

ต่อมาในช่วงบ่าย คณะของผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม ได้เดินทางไปยังวัดสามง่าม โดยมีพระมานะได้ตามไปสมทบเพื่อพบกับ พระศรีธีรวงศ์ รักษาการเจ้าอาวาส เจ้าคณะอำเภอดอนตูม โดยมีคณะกรรมการของวัด พระผู้ใหญ่ และคณะสงฆ์รออยู่ โดยพระมานะได้ตรงเข้ากราบสังขารของหลวงปู่แย้ม เกจิผู้ล่วงลับ จากนั้นได้นำพานพุ่มเข้าขอขมากับพระศรีธีรวงศ์ ซึ่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดสามง่าม ได้ทำการพูดคุยเพื่อความเช้าใจและสั่งสอนในฐานะอุปัชฌาย์ โดยได้มอบหนังสือรับรองให้ย้ายไปจำวัดที่อื่นได้และกำชับห้ามไปกระทำความผิดในช่วงที่บวชเรียน จากนั้น พระมานะได้กราบลาด้วยบรรยากาศเรียบง่าย
               

ส่วน นายสมรักษ์ มีใจดี นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสามง่าม กรรมการวัดสามง่าม บอกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 61 แล้วแต่เพิ่งมีการมาโพส ซึ่งพระมานะอาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ โดยหากมีการนำข้อมูลมาบอกับตนเอง ก็จะมีการดำเนินการในการจัดการพระที่นอกลู่นอกทางออกไปจากวัด ซึ่งเป็นการขัดแย้งกันระหว่างพระทั้ง 2 รูป โดยพระมานะอาจจะขาดประสบการณ์จึงได้ทำการโพสลงไปในโลกโซเชียล
               

ส่วนการที่อดีตพระมหาสมพล นั้นได้ดื่มเบียร์ ได้สอบถามไปว่าเกิดขึ้นอย่างไรในช่วงนั้น ก็ได้ความว่ามีปัญหาเรื่องความดันเด็กวัดจึงได้บอกว่าดื่มเบียร์แก้ได้จึงได้ลองจิบ แต่ก็มีการแอบบันทึกภาพกัน และก่อนหน้าก็ได้ให้ย้ายออกไปจากวัดแล้ว แต่ 4-5 เดือนก็ได้มีการประสานมากับทางรักษาการเจ้าอาวาสว่าสำนึกผิดแล้ว และขอกลับมาทำหน้าที่ช่วยพัฒนาวัดซึ่งท่านก็เข้าใจและได้ให้มาช่วยงาน โดยเป็นพระที่ขยันขันแข็งสู้งานหนักจนเป็นที่ยอมนรับ  ซึ่งตรงนี้ขอบอกว่าทาง รักษาการเจ้าอาวาสก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยขอให้ประชาชนมั่นใจว่า ทางวัดสามง่ามได้มีการจัดการไว้อย่างรัดกุมในวัดมากขึ้นเกี่ยวกับการปฎิบัติตัวเพราะที่ผ่านมาก็ได้เคยเกิดเรื่องแบบนี้มาก่อน ซึ่งหากรักษาการเจ้าอาวาสไม่รับเป็นเจ้าอาวาสในอนาคตถือว่าน่าเสียดายมาก
               

ทั้งนี้หลังจากพระมานะได้ เดินทางออกจากวัดยังไม่ได้แจ้งจุดหมายปลายทางว่าจะไปจำวัดที่แห่งใด โดยได้มีประชาชนที่ทราบข่าวมารับตัวไปโดยบอกว่าเห็นใจกับพระมานะในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม ได้กำชับพระที่มาร่วมในห้องประชุมถึงการวางตัวที่เหมาะสมหากพบว่ากระทำความผิดร้ายแรงจะมีการเข้ามาดำเนินการกวดขันอย่างหนักแน่นอน
 

หน้าแรก » ภูมิภาค