วันศุกร์ ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567 10:46 น.

ภูมิภาค

หนุ่มยืมรถเก๋งแฟนหายเดือด! รถยังอยู่-แฟนให้ไทม์ไลน์ไม่ตรง

วันพฤหัสบดี ที่ 06 สิงหาคม พ.ศ. 2563, 08.49 น.

หนุ่มวัย 28 ปี ชาว อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ที่ถูกแฟนสาวแจ้งความว่ายืมรถไปนานกว่า 4 เดือน แล้วไม่คืน และคิดว่าเอาไปจำนำแล้ว ออกมาโต้หลังตกเป็นข่าวว่า แฟนสาวพูดไม่ตรงกับความเป็นจริง รถยังอยู่ปกติ ระบุอยู่กินด้วยกัน ทำธุรกิจรถเช่าด้วยกัน จ่ายค่างวดเดือนละกว่าแสนบาท ถามชื่อเสียงเสียหายใครรับผิดชอบ คืนรถเรื่องเล็ก

 


วันที่ 5 ส.ค.63 กรณี น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 25 ปี ชาว จ.สุรินทร์ ออกมาร้องขอความช่วยเหลือจากสื่อ โดยระบุว่าถูก นายขิง อายุ 28 ปี อดีตแฟนหนุ่ม ชาว อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ หลอกยืมรถเก๋งมาสด้า 2 สีขาว ทะเบียน 8กถ-9843 กรุงเทพมหานคร


ซึ่งเป็นรถของพ่อ ไปเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา อ้างว่ามีธุระที่ จ.ลพบุรี แล้วไม่ยอมส่งคืนจนถึงทุกวันนี้เป็นเวลาเกือบ 4 เดือนแล้ว พอโทรศัพท์ไปทวงถามก็บ่ายเบี่ยง และมาทราบว่านายขิง เอารถส่งขายประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น

 


ล่าสุดนายขิง (นามสมมุติ)อายุ 28 ปี ชาว อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ผู้ที่ถูกกล่าวถึงได้ออกมาระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า ตนกับแฟนคบหากันมาร่วม 2 ปี ทำธุรกิจเช่ารถด้วยกัน รถแต่ละคันต้องส่งค่างวด เมื่อเก็บค่าเช่ามาได้ ส่วนหนึ่งต้องแบ่งให้เป็นค่างวดรถ ซึ่งจะต้องจ่ายเดือนละกว่า 100,000 บาท จากที่ออกรถมาด้วยกัน 6 คัน เพียงแต่รถจะเป็นชื่อของญาติฝั่งแฟน

 
ที่ผ่านมา ค่าใช้จ่ายต่างๆ ตนไม่เคยลงบัญชี ไม่เคยทำสัญญาใดๆ เพราะคิดว่าจะใช้ชีวิตคู่ด้วยกันไปตลอด การที่ตนเอารถมาใช้ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะเป็นสามีภรรยากัน

 

แต่สิ่งที่แฟนสาวให้ข่าวไปนั้นถือว่า “พูดไม่หมด” และไทม์ไลน์ ที่ออกไปทางสื่อก็ไม่ตรงกับความเป็นจริง เช่น การอ้างว่าตนยืมรถไปที่จังหวัดลพบุรี เมื่อวันที่ 22 เม.ย.แล้วหายไปเลย ไม่เป็นความจริง

 
เพราะวันนั้นไปกับแฟนด้วยกันแต่ขับรถคนละคัน เพื่อไปดูรถเช่าอีกคันที่เสียที่ลพบุรี แต่กลับมาคันเดียวกันนอนค้างคืนที่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ แล้วก็เดินทางไปที่จังหวัดพะเยา, เชียงราย และอีกหลายจังหวัดด้วยกัน

 


การที่แฟนสาวเอาเรื่องไปร้องสื่อ ทำให้ตนได้รับความเสียหาย ลูกค้าไม่เชื่อมัน รวมถึงเพื่อนร่วมธุรกิจรถเช่า ก็ไม่กล้าคบหากับตน จริงแล้วแฟนค้างเงินตนจำนวน 120,000 บาท ส่วนตัวคิดว่าเป็นเงินเล็กน้อย คืนหรือไม่คืนก็ได้ กรณีแฟนอ้างว่าไม่มีรถใช้ก็ไม่เป็นความจริง เพราะเฉพาะแฟนมีรถอยู่ในมือ 3 คันแล้ว

ส่วนรถที่เป็นชื่อของพ่อเขา “ผมไม่เอาอยู่แล้ว” ตั้งใจจะเอาไปคืน แต่มาเกิดเรื่องกันก่อน การแจ้งความกับตำรวจตนไม่กลัว เพราะผมมีหลักฐานมากมายมาอ้างว่าอยู่กินกันแบบสามีภรรยา และทำธุรกิจด้วยกัน สิ่งที่อยากจะถามกลับไปยังแฟนสาวว่า “ทำให้ผมเสียหายแล้วใครจะรับผิดชอบ

 

หน้าแรก » ภูมิภาค