ณ ศาลากลางหมู่บ้านคลองหว้าใหม่ ต.ทับพริก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นางขวัญเรือน เทียนทอง นายก อบจ.สระแก้ว เป็นประธานในพิธี โดยมนายวินัย โตเจริญ นายอำเภออรัญประเทศ นางกฤษณา โสภี ครูชำนาญญการพิเศษ ศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพชายแดนสระแก้วนายวิชิต คำไกร ผอ. รพ.สต.ทับพริกนายรุ่งเพชร  พิมอ่อน กำนันตำบลทัพพริก ประธานวิสาหกิจชุมชนสมุนไพรบ้านคลองหว้าให สระแก้วส่งเสริมการปลูกฟ้าทะลายโจร สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้สู้ภัยป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ขยายเครือข่ายตามออเดอร์ 50ตัน

 

โดยมีนางขวัญเรือน  เทียนทอง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานเปิดโครงการดังกล่าว โดยศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนสระแก้วจัดโครงการการดังกล่าวขึ้นเพื่อฝึกอาชีพให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน ให้กับประชาชนที่ว่างงาน หรือ มีรายได้ลดลงและต่อยอดจากอาชีพเดิม โดยจัดการฝึกอบรมส่งเสริมการปลูกฟ้าทะลายโจร โดยมีการให้ความรู้ความเข้าใจ ในการปลูกและสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพได้ อีกทั้งในพื้นที่การอบรมในครั้งนี้เป็นชุมชนดังกล่าวได้มีการตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนสมุนไพรบ้านคลองหว้าใหม่ ในการปลูกฟ้าทะลายโจรและต้องการขายเครือข่ายเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มผลผลิตตามความต้องการของตลาดให้ได้จำนวน 50 ตัน

 

โดยนายรุ่งเพชร  พิมอ่อน กำนันตำบลทัพพริก ประธานวิสาหกิจชุมชนสมุนไพรบ้านคลองหว้าใหม่ เปิดเผย่ว่า ปัจจุบันวิสาหกิจชุมชนสมุนไพรบ้านคลองหว้าใหม่มีสมาชิก จำนวน 48 คน ปลูกฟ้าทลายโจร จำนวน 45 ไร่ ผลิตฟ้าทลายโจรแห้งได้ 20 ตัน และในปี 2564 มีการเซ็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้ากับบริษัทซึ่งมีความต้องการฟ้าทะลายโจรแห้งรวมจำนวนทั้งสิ้น 50 ตัน จึงมีความจำเป็นต้องขยายสมาชิกเพิ่มเพื่อให้ได้ผลผลิตตามความต้องการที่มีการเซ็นต์สัญญาซื้อขายล่วงหน้ากับบริษัทจำนวน 50 ตัน  จึงได้นำกลุ่มเป้าหมายที่มีความต้องการปลูกฟ้าทะลายโจร จำนวน 30 คน รวมพื้นที่จำนวน 60 ไร่ เข้ามาร่วมกิจกรรมในวันนี้ด้วย สระแก้วส่งเสริมการปลูกฟ้าทะลายโจร สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้สู้ภัยป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ขยายเครือข่ายตามออเดอร์ 50ตัน

 

นางกฤษณา โสภี ครูชำนาญญการพิเศษ ศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพชายแดนสระแก้ว เปิดเผย่ว่า ปัจจุบันวิสาหกิจชุมชนสมุนไพรบ้านคลองหว้าใหม่มีสมาชิก จำนวน 48 คน ปลูกฟ้าทลายโจร จำนวน 45 ไร่ ผลิตฟ้าทลายโจรแห้งได้ 20 ตัน และในปี 2564 มีการเซ็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้ากับบริษัทซึ่งมีความต้องการฟ้าทะลายโจรแห้งรวมจำนวนทั้งสิ้น 50 ตัน จึงมีความจำเป็นต้องขยายสมาชิกเพิ่มเพื่อให้ได้ผลผลิตตามความต้องการที่มีการเซ็นต์สัญญาซื้อขายล่วงหน้ากับบริษัทจำนวน 50 ตัน  จึงได้นำกลุ่มเป้าหมายที่มีความต้องการปลูกฟ้าทะลายโจร จำนวน 30 คน รวมพื้นที่จำนวน 60 ไร่ เข้ามาร่วมกิจกรรมในวันนี้ด้วยกลุ่มสมุนไพรชุมชนบ้านดงบัง ระดมปลูกสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ส่ง รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ก่อนหน้า คนแห่ซื้อฟ้าทะลายโจรถล่มทลายหลังเชื้อไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดในการสร้างภูมิคุ้มกัน –ต้านทานโรค จนต้องย้ายที่จำหน่ายยาจาก รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ไปศูนย์ภูมิภูเบศร ต.บางเดชะ อ.เมืองปราจีนบุรี เพื่อลดความแออัด และ ล่าสุด รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้แจกสมุนไพรให้บุคลากรทางการแพทย์ รพ.ต่าง ๆ ในการสร้างภูมิต้านไวรัสโคโรน่า และยังแจกเมล็ดให้ประชาชนปลูก หลังกรมการแพทย์แผนไทยได้มีการทดลองในหลอดทดลองแล้วพบว่า ฟ้าทะลายโจร! มีผลยับยั้งไวรัสโคโรน่า 2019(โควิด-19 ) ได้ จึงเป็นทางเลือกที่สร้างความมั่นใจว่า ก่อนมีวัคซีนป้องกัน “ฟ้าทะลายโจร” คือสมุนไพรที่พึ่ง และ ยังมีสมุนไพรไทยเด็ดอีกตัว ต้านโควิด-19 คือ มะขามป้อมเตรียม แจกฟรีๆ อีก มากกว่า 1 ตัน

 

นายวิชิต คำไกร ผอ. รพ.สต.ทับพริก กล่าวว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 พบประชาชน ได้พากันซื้อสมุนไพร ฟ้าทะลายโจร ของ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ในการสร้างภูมิคุมกัน-ต้านทางเชื้อไวรัสโควิด -19 ที่ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน จนทาง รพ.เจ้าพระอภัยภูเบศร ได้ย้ายสถานที่จำหน่ายฟ้าทะลายโจรไปที่ภูมิภูเบศร ริมถนนสายสุวินทวงศ์ (ปราจีนบุรี – ศรีมโหสถ) ต.บางเดชะ อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรีในการลดความแออัด และในหลายจังหวัดขาดแคลนไม่พอจำหน่าย ตามที่ได้นำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่องก่อนหน้าเมื่อเร็ว ๆ นี้นั้น

 

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไป กลุ่มสมุนไพรบ้านคลองหว้าใหม่  ต.ทับพริก อ.อรัญประเทศ สถานที่ปลูกสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ส่งจำหน่าย รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้พบกับ จากความต้องการสมุนไพรฟ้าทะลายที่สูง หลังโรคโควิด-19 แพร่ระบาด ทาง รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้ให้ทางกลุ่มสมุนไพรเร่งปลูกสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ให้เพียงพอกับประชาชน โดยประชาชนสามารถนำต้นฟ้าทะลายโจร ไปต้มกินเป็นยาอายุวัฒนะได้ หลังจากออกดอกประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ โดยตัดต้นเลยช่วงโคนต้นมาประมาณ 1 คืบ ซึ่งหลังจากนั้นจะแตกต้นมาใหม่ สามารถตัดได้อีก 2-3 ครั้ง โดยเก็บช่วงเช้าถึงเที่ยง นำไปตากแดด และนำใบประมาณ 1กำมือไปต้ม ดื่มกินวันละ 1 แก้ว