วันที่ 14 ต.ค.64 นายพงศ์รัตน์  ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับผู้อำนวยการสำนักงานยุติธรรมจังหวัดอุบลราชธานี ผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดีจังหวัดอุบลราชธานี และส่วนราชการอื่นที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ได้แก่ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุบลราชธานี สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุบลราชธานี เทศบาลตำบลขามป้อม และเทศบาลตำบลหัวนา ได้ลงพื้นที่พบนายรักษ์เทวาฯ และครอบครัว ณ เทศบาลตำบลหัวนา อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น  

 

จากกรณีพนักงานจ้าง องค์การบริหารส่วนตำบลเจียด อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี วัย 48 ไว้ใจเพื่อนซึ่งเป็นตำรวจ ไปค้ำประกันรถแทรกเตอร์ให้ภรรยา สุดท้ายถูกฟ้องยึดบ้านที่ดินขายทอดตลาด จึงตัดสินใจประกาศขายดวงตาและไต หรืออวัยวะอะไรก็ได้ในร่างกาย ยกครอบครัว เพื่อหาเงินไถ่บ้านโรงเลี้ยงสัตว์ และที่ดิน 9 ไร่ 2 งาน 46 ตารางวา ที่กำลังจะถูกขายทอดตลาดในวันที่ 16 ตุลาคม 2564 โดยช่วงเช้าวันที่ 14 ตุลาคม นายรักษ์เทวา คะพิมพ์อุดมลาภ พร้อมภรรยาและลูก 2 คน ได้เดินเท้าฝ่าสายฝนจากบ้านพักเลขที่ 103 หมู่ที่ 8 ต.ขามป้อม อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี เพื่อจะเดินทางเข้าจังหวัดอุบลราชธานี ไปร้องขอความช่วยเหลือจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ระยะทางกว่า 100 ก.ม.ท่ามกลางชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างมาดักรอให้กำลังใจตลอดเส้นทาง 

 

ซึ่งเมื่อ นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์  ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ทราบข่าว จึงได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  ลงพื้นที่  โดยมีผู้อำนวยการสำนักงานยุติธรรมจังหวัด,สำนักงานบังคับคดี,นิติกร ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุบลราชธานี เดินทางมาพบนายรักษ์เทวา คะพิมพ์อุดมลาภ และครอบครัว ที่กำลังเดินฝ่าสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้ให้เจ้าหน้าที่เชิญครอบครัวนายรักษ์เทวา คะพิมพ์อุดมลาภ เพื่อรับเรื่องและสอบถามถึงความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น พร้อมสั่งการให้นำนางจุไรรัตน์ ทิพระษาหาร ผู้เช่าซื้อรถแทรกเตอร์ พร้อมสามี คือ ด.ต.มานิตย์ ทิพระษาหาร  มาที่สำนักงานเทศบาลตำบลหัวนา อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี เพื่อพูดคุยกัน 

 

นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์  ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า จากการพูดคุยกับผู้เช่าซื้อรถแทรกเตอร์  ผู้เช่าซื้อพร้อมที่จะคืนรถแทรกเตอร์คันดังกล่าวให้กับบริษัท ดังนั้นหนี้ทั้งหมดก็เป็นอันยุติลงตามคำพิพากษาของศาล จะเหลือเพียงค่าธรรมเนียม อาจจะมีจำนวนไม่มากนัก ทางครอบครัวผู้เช่าซื้อก็พร้อมที่จะมาดูรายละเอียดว่าจะชำระเงินที่เหลืออย่างไร ซึ่งทางสำนักงานบังคับคดีได้ประสานทางโทรศัพท์ไปพูดคุยกับบริษัท ที่เป็นผู้ยื่นให้สำนักงานบังคับคดีขายทรัพย์ จากการพูดคุยทางบริษัทยก็ยินดีที่จะรับรถแทรกเตอร์คืน  

 

ทั้งนี้สำนักงานบังคับคดี ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือในชั้นบังคับคดี โดยการงดการบังคับคดี (ชะลอการขายทอดตลาด) เรียกให้จำเลยที่ 1 ส่งมอบทรัพย์แก่โจทก์เพื่อตัดต้นเงิน และนัดให้บริษัทยันมาร์ แคบปิตอล (ไทยแลนค์) โจทก์ กับนางจุไรรัตน์ ทิพระษาหาร (จำเลยที่ 1) และ นายรักษ์เทวา คะพิมพ์อุดมลาภ (จำเลยที่ 2) ไกล่เกลี่ยชั้นบังคับคดีในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 เวลา 09.00 นาฬิกา