วันพฤหัสบดี ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567 08:23 น.

การศึกษา

มรส.เดินหน้าพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาปลูกข้าวหอมไชยา

วันจันทร์ ที่ 03 สิงหาคม พ.ศ. 2563, 12.51 น.

มรส.เดินหน้าพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาปลูกข้าวหอมไชยา

 
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี (มรส.) จัดกิจกรรมการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาภูมิปัญญาการปลูกข้าวหอมไชยา หนึ่งในโครงการบริการวิชาการ ส่งเสริมและพัฒนา การใช้ประโยชน์จากข้าวหอมไชยา นำนักศึกษาคณะครุศาสตร์ ลงพื้นที่ศึกษาภูมิปัญญาการปลูกข้าวหอมไชยา ต่อยอดพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาภูมิปัญญาการปลูกข้าวหอมพันธ์ไชยา สนองโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
 
ดร. ทวัช บุญแสง อาจารย์ประจำสาขาวิชาสังคมศึกษา คณะครุศาสตร์ มรส.ผู้รับผิดชอบโครงการ เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี มียุทธศาสตร์การพัฒนาโดยมีเป้าหมายหลักในการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยเพื่อการรับใช้ชุมชนท้องถิ่นอย่างยั่งยืนสู่สากล ผลิตบัณฑิตมีคุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์สามารถเรียนรู้ คิดเป็น ทำเป็น มีศักยภาพการแข่งขันด้นการวิจัยได้รับการยอมรับในต้านการส่งเสริมความรู้สร้างความเข้มแข็งแก่ชุมชนท้องถิ่น เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมในมิติของภูมิปัญญาท้องถิ่น ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี หลากหลายรูปแบบ ซึ่งเป็นอัตลักษณ์สำคัญเชิงพื้นที่ ยกตัวอย่างเช่น เงาะนาสาร หอยนางรม ไข่เค็มไชยา เป็นต้น และยังมีอื่นๆ อีกมากมาย ที่ยังไม่ได้มีการเผยแพรไห้ได้รับความรู้จัก แต่ในท้องถิ่นถือว่าเป็นของเก่แก่ และมีมานานซึ่งกำลังจะเลือนหายไปในท้องถิ่น คือ "ข้าวหอมไชยา" ซึ่งเป็นพันธุ์ข้าวที่มีในท้องถิ่น อำเภอชายมาช้านาน มีลักษณะและรูปแบบการปลูกไม่เหมือนกับข้าวชนิดอื่น ซึ่งมีจุดเด่นที่เมล็ดข้าวมีกลิ่นหอม ตั้งแต่เป็นรวงข้าว และเมื่อนำไปหุงประกอบอาหารจะมีกลิ่นหอมมากยิ่งขึ้น
 
คณะครุศาสตร์ มีหน้าที่ในการผลิตบัณฑิตวิชาชีพครู และส่งเสริมบัณฑิตให้มีความรักและสำนึก ในอัตลักษณ์ของท้องถิ่น และสืบสานศิลปวัฒนธรรมในพื้นที่ภาคใต้ รวมไปถึงมีพันธกิจร่วมกับโรงเรียนเครือข่ายในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมพัฒนาการศึกษาทั้งในเชิงการพัฒนาบุคลากรทางการศึกษา และสร้างองค์ความรู้ร่วมกันในด้านต่างๆ จึงเล็งเห็นความสำคัญของภูมิปัญญาท้องถิ่น "การปลูกข้าวหอมไซยา"ในพื้นที่อำเภอไชยา ซึ่งเป็นทรัพยากรอันล้ำค่าของท้องถิ่น ควรคู่แก่การอนุรักษ์เอาไว้ให้ลูกหลานในอนาคตในการจัดการเรียนรู้ หรือการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียน จึงมีความจำเป็นที่จะต้องนำเอาองค์ความรู้นี้ไปบูรณาการประกอบการจัดการเรียนการสอนในสถานศึกษาได้อย่างเป็นรูปธรรม
 
 
 
Email ข่าวการศึกษา เยาวชน ศิลปวัฒนธรรม  saowaporn@hotmail.com   และ  bat_mamsao@yahoo.com

หน้าแรก » การศึกษา