สังคมพระเครื่องบ้านเมือง(15เม.ย.61)

 

สท.หน่อย ประกวดพระ 13 ครั้งยังสู้ 5 ล้านเกลี้ยง

หาทุนสมทบสร้างอาคารโรงพยาบาล

        

 

 

♦♦♦ นายคมสัน ชาญชัยวรวิทย์ หรือ สท.หน่อย ศรีราชา ประธานกรรมการบริหารสมาคมพระเครื่องพระบูชาไทยจังหวัดชลบุรี เขต 1คนดังวงการพระ บอกกล่าวเชิญชวนนักสะสมพระเครื่องไปร่วมงานประกวดพระเครื่องเหรียญคณาจารย์ของชมรมพระเครื่องศรีราชา ครั้งที่ 13 จัดที่ โรงเรียนดาราสมุทร ศรีราชา วันอาทิตย์ที่ 22 เมษายน 2561 เพื่อหาทุนสมทบสร้างอาคารศรีสวรินทรานุสรณ์ 150 ปี โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา การจัดงานประกวดพระครั้งก่อนได้กว่า 5 ล้านไม่เหลือครั้งนี้จึงลดเพดานลงจัดเป็นงานท้องถิ่นภาคตะวันออก มีประกวดแค่ 800 รายการตามกติกาสมาคมฯ ตามปรกติ สท.หน่อย  ศรีราชาจัดต้องยิ่งใหญ่ทุกครั้งเพิ่งจะมาคราวนี้แหละที่จัดแบบท้องถิ่นภาคตะวันออกไม่ถึงพันรายการ มีพระหลักพระนิยมเล่นหาในวงการ 4 จังหวัดคือ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และ ตราด ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีพระกรุพระเก่าและพระเกจิดังมากมาย เช่น หลวงปู่เฮี้ยง วัดป่า  เจ้าคุณศรีวัดอ่างศิลา หลวงปู่เกลี้ยงวัดเนินฯ หลวงพ่อโทนวัดเขาคีรีวัน หลวงพ่อแดงวัดช่องลม หลวงพ่อฮกวัดมาบลำบิด  หลวงพ่อเริ่มวัดจุกกระเชอ หลวงพ่อเกตุวัดช่องลม หลวงปู่ทิมวัดละหารไร่ หลวงปู่แก้วเกสาโร หลวงพ่อรัตน์วัดป่าหวาย และหลวงพ่องคง วัดวังสรรพรส พระชุดจังหวัดตราด งานนี้ได้รับการสนับสนุนจากอดีตนายกเทศมนตรีเมืองศรีราชาคุณฉัตรชัย ทิมกระจ่าง ประธานชมรมพระเครื่องศรีราชาเป็นประธานจัดงานครั้งนี้   คุณชำนาญ ศรีพัชรเอกหรือโต๊ะเซ้ง ชลบุรี นายกสมาคมอนุรักษ์พระเครื่องพระบูชาชลบุรี  เสี่ยบี พัทยา ประธานบริหารสมาคมพระเครื่องฯจังหวัดชลบุรีเขต 2 และ คุณตั้ม  SK  นายกสมาคมพระเครื่องเมืองพัทยา คุณคมสัน ชาญชัยวรวิทย์ เป็นประธานดำเนินงานหรือคนจัดการนั่นแหละ รางวัลใหญ่ยอดเยี่ยมให้เป็นเหรียญทองคำ หลวงปู่บัวเกตุ วัดป่าปางกึ้ด เชียงใหม่ รางวัลประจำโต๊ะให้เนื้อนวโลหะ  รางวัลแต่ละรายการให้เนื้อสัตตโลหะลงยาสีน้ำเงินและเนื้อตะกั่วอย่างละเหรียญ ปีหน้าฟ้าใหม่คงได้จัดงานใหญ่เต็มรูปแบบสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย ดังที่เคยทำมา 12 ปีแล้วนะครับ  นักสะสมพระเครื่องและแผงค้าพระเครื่องโปรดทราบ “ปีนี้งานเล็กแต่ใจถึงจัดเต็มเหมือนเดิมครับคุณ หน่อย ศรีราชาฝากบอกและเชิญไปร่วมงานกันให้พร้อมเพรียง”

---

 

 

 

“บังโต” ออกมาขอโทษชาวพุทธตอนจบ

 

 

 

 

♦♦♦ “ข่าวบังโต วิจารณ์เรื่องศาสนาพุทธจบแล้ว”หลังจากออกมาขอโทษจากใจจริงสำนึกผิด อาจารย์เกี๊ยก ทวีทรัพย์ รักษ์ ศรีเกตุ และโทน บางแค ทนไม่ได้กับการบุกด้วยคำพูดที่กระทบชาวพุทธและสะเทือนไปไกลร้อนถึงท่านท่านจุฬาราชมนตรียังต้องออกมาช่วยทำความเข้าใจ “อ.เกี๊ยก ทวีทรัพย์” บอกว่าเห็นด้วยเรื่องจบแล้วเพราะบังโตออกมาสำนึกผิดขอโทษที่พูดไปด้วยความไม่รู้ทำให้ชาวพุทธรับไม่ได้กับคำพูดดังกล่าว  อ.เกี๊ยกบอกด้วยว่าทุกศาสนาสอนให้เป็นคนดีมีเมตตาต่อกัน เรื่องรูปปั้นองค์พระศาสดานั้นเป็นการปั้นเพื่อเป็นตัวแทนพระพุทธเจ้าเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจไม่ใช่เป็นสิ่งงมงาย ตามความเข้าใจของใครบางคน รูปปฏิมากรหรือพระพุทธรูปบ่งบอกถึงความศรัทธาของชาวพุทธจึงไม่เหมือนปุถุชนธรรมดาพุทธลักษณะมหาบุรุษผู้ทรงคุณปัญญา  ซึ่งทั้งสองท่านที่วิภาควิจารณ์พระพุทธศาสนาก็ได้ออกมายอมรับแล้วว่าสิ่งที่ตนได้กล่าวไปตนเองไม่รู้จึงกระทบความรู้สึกของชาวพุทธจำนวนมาก และได้ออกมากล่าวขอโทษออกมาสำนึกผิดโดยไม่มีใครบังคับ ถือว่าเรื่องจบ

 

♦♦♦ อีกท่านหนึ่ง  “อ.โทน บางแค” ประธานมูลนิธิสยามนนท์ บอกว่า บังโต ไม่รู้ไม่เข้าใจศาสนาพุทธเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวกับศาสนา ออกมาขอโทษในสิ่งที่ไม่รู้ไม่เข้าใจพวกเราอภัยได้เรื่องก็จบได้ง่าย  แม้แต่ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระองค์ยังเคยตรัสไว้ว่า สังคมไทยต้องสร้างคนดีคนเก่ง การสร้างให้คนเก่งได้ภายใน 5 ปี 10 ปี ถ้าเก่งแล้วไม่เป็นคนดีบ้านเมืองก็วุ่นวาย โทนเองเป็นเด็กสลัมไม่ใช่คนร่ำรวยมาจากไหนแต่เราต้องทำดีเพื่อให้รุ่นน้องเห็นว่าโทนบางแคทำอะไรไว้บ้าง โทนบอกผมต้องจ่ายเงินเพื่อคืนสังคมเดือนละ 3 แสนทำมา 13 ปีแล้ว ปัจจุบันผมไปไหนคนเรียกอาจารย์โทน ผมรู้สึกภาคภูมิใจเพราะเขาเห็นว่าเราเป็นคนดีมีความรู้ถามอะไรตอบได้รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่เราพอมีก็คืนให้สังคมไม่ใช่รับเอาอย่างเดียว “ผมเป็นเซียนพระอาชีพ ไม่ใช่อาชีพเซียนพระ” อาชีพเซียนพระเป็นอาชีพที่ทำอะไรต้องได้เงินไม่ได้เงินก็ไม่เอา ข่าวล่าสุดแว่วว่าโทน บางแคจะเททองสร้างพระใหญ่หน้าตัก 58 นิ้วถวายวัดราษฎร์ประคองธรรม บางบัวทองสาธุครับ  

 

♦♦♦ อีกคนหนึ่งซึ่งดาหน้าออกมาโต้บังโตทันทีเมื่อมีการวิภาควิจารณ์ถึงองค์พระศาสดาผู้นำทางศาสนาพุทธ  “อ.รักษ์ ศรีเกตุ” พอได้เห็นบังโต ออกมาขอโทษสำนึกว่าตนเองทำผิดพูดในสิ่งที่ไม่รู้จริงแล้วนำมาพูดทำให้พวกเรารับไม่ได้แต่เมื่อบังโตออกมาแสดงตนเองอย่างชัดเจนเช่นนี้พวกเราเข้าใจแล้รับฟังได้ไม่ติดใจกันและกันต่อไปเรื่องจึงจบลงไม่มีอะไรต่อกัน ชาวพุทธยึดหลักธรรมมะคือการให้อภัยกันเป็นสิ่งดีงาม คำว่าศรัทธาไม่ควรแตะต้องครับ

---

 

 

 

“เสี่ยกุ่ย” โต้ทำไมเลือกงานส่งพระประกวด

 

 

 

 

♦♦♦ เสี่ยกุ่ย รัชดา โต้เสี่ยวิภาคดังหนาหูว่าเสี่ยกุ่ยเป็นนักสะสมพระเครื่องเนื้อทองคำตัวยงรังใหญ่ในประเทศนี้แต่ไม่คิดที่จะนำพระไปส่งงานประกวดพระเครื่องที่สมาคมจัดหรือรับรองให้หน่วยงานอื่นจัด เรื่องนี้เสี่ยกุ่ย รัชดามีเหตุผลมาสู้ อันดับแรกเลยเสี่ยกุ่ยบอกว่าผมเลือกงานที่ไม่แกะพระออกจากพลาสติกทำให้พระเนื้อทองคำถูกจับผิวหมองคล้ำ การอัดพลาสติกปัจจุบันใสปิ้งมองเห็นชัดเจนทุกด้านอยู่แล้ว แกะพลาสติกออกแต่ละทีมีโอกาสพลาดทำให้พระเสียหายได้ต้องเสียค่าอัดพลาสติกเลี่ยมอย่างดีฝีมือจัดองค์ละ 300 แล้วครับถ้าแกะแล้วเลี่ยมอีกหนก็ต้องจ่ายงานละ 700 ต่อองค์ มากว่าค่าส่งพระเท่าตัว ผมส่งครั้งละกว่า 100 องค์ค่าใช้จ่ายหลายหมื่นและยังเสี่ยงกับการบล็อกรางวัลพวกกรรมการส่งพระของตนเองอีกต่างหาก ประการที่สองเสี่ยกุ่ย ยังไม่เชื่อในกรรมการบางคนเช่น เซียนพระ ช.บอกว่าพระทองคำหลวงปู่ทวดปี 2500 ไม่มีการสร้าง และอีกท่านหนึ่งเซียน ท.ออกรายการทีวี.บอกว่าพระหลวงปู่ทวดปี 2500 มีสร้างแค่เนื้อทองแดง 5,000 เหรียญ ปี 2501สร้างอีกหน 6,000 เหรียญกะไหล่เงิน 3,000 เหรียญ กะไหล่ทอง 3,000 เหรียญไม่มีเนื้ออื่น เสี่ยกุ่ย ยืนยันว่าปี 2500 มีการสร้างเนื้ออื่นเช่นเนื้อทองคำ เนื้อนาก เนิ้อเงิน กะไหล่ เนื้อนวะและทองแดงส่วนเนื้อทอคำสร้างจำนวนน้อยอยู่กับบ้านผู้สูงศักดิ์ยากที่จะบุกเข้าไปซื้อฉะนั้นกรรมการพระบางคนไม่เคยเห็นอย่าเพิ่งบอกว่าไม่มีนะครับ

---

 

 

วัชรการันตี ครุฑโบราณอายุ 200 ปีมีอาถรรพ์

 

 

 

♦♦♦ ได้ครุฑโบราณอายุมากกว่า 200 ปี เป็นครุฑยุคปลายสมัยอยุธยา  ครุฑตนนี้มีประวัติดีเคยอยู่วัดดังย่านท่าเตียนพระท่านบอกอยู่ที่ไหนให้โชคบูชาดีมีเงินเข้า ก่อนที่จะมาอยู่กับชาวบ้านใกล้วัดและถูกขายอีกหลายทอด วัชรการันตีเซียนเครื่องรางไปเห็นพอดีมีโอกาสได้เห็นเป็นของแท้ของโบราณจึงยอมจ่ายหนักซื้อเข้าร้านอธิษฐานบารมีพญาครุฑทอง สมัยอยุธยาตอนปลายตนนี้มีความสูง 6นิ้วครึ่ง  วัดจากปีกครุฑได้ 5นิ้วเป็นครุฑเนื้อทองโบราณที่ยังมีสภาพสมบูรณ์ ชมองค์จริงได้ที่ร้าน วัชรการันตี ชั้น 2 ซีคอนบางแค ส่วนราคานั้นอยู่ที่ความพอใจเพิ่มลดได้ตามความต้องการของทั้งสองฝ่าย

---

 

 

 

“อุ๊ เพชรรัตน์” 3 พ.ค.61 เปิดเซอร์ปิดตาวัดสะพานสูง

        

 

 

 

 

♦♦♦ อุ๊ เพชรรัตน์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์อภิรัตน์ โกสุมา เซียนพระสายวัดสะพานสูงสะสมพระหลวงปู่กลิ่นและหลวงพ่อทองสุข วัดสะพานสูงไว้ไม่น้อยถิ่นเดิมอยู่ใกล้วัดมาก่อนก็ได้เปรียบคนอื่นอยู่แล้วมีของจริงของแท้อย่างนี้ไม่มีพลาดแน่ ข่าวว่าจะเปิดเซอร์พระสายวัดสะพานสูงในวันที่ 3 พฤษภาคม 2561 เป็นต้นไปที่ซีคอนบางแคชั้น 2 โซนซีซั่น เปิดบริการที่ร้านใหญ่อยู่ที่นั่นแหละ เพื่อช่วยคนไม่รู้พระที่เก็บสะสมได้รู้อีกเยอะเลยขอแต่อย่าเก็บค่าออกใบรับรองแพงเกินเหตุก็แล้วกันครับคนเล่นพระสะสมพระเกจิวัดสะพานสูงก็ไม่น้อยเลยและหาทีมงานตาถึงพึ่งได้มาช่วยระบบเท็คนิคถ่ายรูปใบเซอร์ก็สำคัญต้องคมชัดสวยเหมือนจริงทันยุค ไทยแลนด์ 4.0 เลยครับ ส่วนเรื่องเปิดเว็บไซต์ iamuletclub.com เพื่ออะไร อ.อุ๊ เพชรรัตน์ บอกว่าเพื่อให้มีพื้นที่เปิดร้านค้าฟรี และเผยแพร่ข่าวสารให้ความรู้พระเครื่องสายวัดสะพานสูงครับและเพื่อตรวจสอบบัตรรับรองพระแท้ที่ออกโดย กลุ่มพระเครื่องทั่วเมืองไทย

---

 

 

 

“ต้อม นครสวรรค์” ทุ่มเปิดร้านอาหารใหญ่ถนนสายอักษะ

 

 

 

♦♦♦ ต้อม นครสวรรค์ ผู้บริหารห้างพระเครื่อง SC สายใต้ใหม่ ทำให้ที่นี่ดังทะลุเป้าคนแห่เข้าซื้อขายได้ทุกวันนับพันแผงอาทิตย์ที่ผ่านมามอบให้เลขา กนก จิตรภักดีแจกเงินรางวัลแผงค้า 15,000 บาท ผู้โชคดีที่ซื้อบัตรที่เหลือแค่ 3 ใบสุดท้ายได้รางวัลใหญ่ 10,000  กมล หอมเจริญพาณิช บอกดีใจมากช่วงนี้เงินติดกระเป๋าไม่ถึง 500 ได้ไปทำบุญสงกรานต์บ้านเกิดครับ ผมบอกกับจิ้งจกหลวงพ่อหน่ายวัดบ้านแจ้งให้ผมได้รางวัลเถอะครับหลวงพ่อและก็ได้สมปรารถนาจริงๆ วันจันทร์ที่ 16 เมษายน 61 ตลาดพระเครื่อง สายใต้ใหม่เปิดแล้ว 000 ผู้บริหารหนุ่มไฟแรง ต้อม นครสวรรค์ ลงทุนเซ้งกิจการร้านอาหารดังเชิงสะพานถนนอักษะ เขตทวีวัฒนาทางไปสนามหลวง 2  ปรับปรุงตกแต่งเป็นล้านจัดอาหารเลี้ยงฉลองเป็นงานประจำปีห้างพระเครื่อง SC สายใต้ใหม่ให้เพื่อนๆพี่ๆคนวงการพระเครื่องได้สนุกสนานเบิกบานใจและได้รูจักร้านอาหารต้อม นครสวรรค์ บรรยากาศดีมีรายการอาหารดังเยอะมากแขกเหรื่อคนวงการไปร่วมงานมีการจับฉลากแจกคึกคัก ทีมงานนิตยสารพระท่าพระจันทร์ อ้วน นครปฐม วัฒน์บางแค  เอ๋ ท่าพระจันทร์ ตี๋เล็ก วิศวะ  เปี๊ยก ตลาดพลู ต้น ตลิ่งชัน โต้ ท่าพระจันทร์ ในวันนั้นไม่มีใครกี่คนที่รู้ว่าเป็นวันเกิดของ ต้อม นครสวรรค์ด้วย จึงช่วยกันอวยชัยให้พรแฮปปี้เบิร์ดเดย์ดังสนั่นทุ่งเลยครับ

---

 

 

 

“อ้วนหล่อ ท่าพระจันทร์” ย้ายขึ้นพันธุ์ทิพย์

 

 

 

♦♦♦ เซียนพระใช้ชื่ออ้วนมีนับร้อยคน ต่างมีความโดดเด่นและโด่งดังกันคนละแบบอย่าง “อ้วนหล่อ” กว่า 10 ปีอยู่ที่สนามพระท่าพระจันทร์รู้จักเรียกขานกันว่า “อ้วนเหล่” จะอ้วนหล่อหรืออ้วนเหล่ดูเท่ห์มีเสน่ห์ตรงที่คนนี้เป็นคนตรงศึกษาหาความรู้จากตำรามาทุกช่องทางกระทั่งผู้ใหญ่ในวงการไม่พลาดที่จะเอ่ยปากถามเอาความจริง จนแตกฉานพระทุกประเภทไม่ว่าเหรียญเก่าใหม่ พระเนื้อดิน เนื้อชินและเนื้อผง โดนอุปนิสัยไม่ชอบโฉ่งฉ่างวางตัวเรียบง่ายตามสไตล์ของผู้มีมารยาทดีในสังคมวงการพระเครื่องที่น้องๆให้ความเคารพมาก  อ้วนหล่อไปเคยหวงวิชามาปรึกษาถามไถ่อะไรไม่รู้ได้รู้ทั่วหน้า ก่อนซื้อขายตัดสินใจให้น้องๆได้ก่อนเลย ปัจจุบันได้ย้ายค่ายจากท่าพระจันทร์ไปอยู่กับ ร้านสมัคร งามวงศ์วานที่ชั้น 3 พันธุ์ทิพย์แล้วจ้าใครไปมาแวะเจอกันได้ทุกวันคนนี้ขยันไม่เคยขาดโรงเรียนสักวันนอกจากคนที่บ้านสั่งครับ