วันพฤหัสบดี ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567 19:30 น.

อื่นๆ » คอลัมน์

ท่องเที่ยว รอยเท้า รายทาง

ออน อาร์ต : วันจันทร์ ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2561, 20.14 น.

ตะวัน...ตก...“ลาวใต้” ชีวิตเดินช้า สงบ ง่าย งาม (๒)

 

“เต็มดวงไม่เต็มดวง
ตะวันร่วงไม่อาลัย
ทิ้งแสงให้สงสัย
ให้ซึมซับประทับทรวง

 

แสงเช้ารับอรุณ วันที่ 3 ณ “ดอนเดด” ลอดช่องเล็ก ๆ เหนือ “เฮือนพัก” เข้ามาทักทายอย่างอบอุ่น

ลมเย็น ๆ ปะทะใบหน้า แดดเช้ากระทบสายน้ำ บอกเล่าเรื่องราวของวิถีชีวิตอันเรียบง่าย

วันนี้ เราเดินทางสู่วัยเยาว์ กับ “ลดถีบ” ที่เช่าเหมาคันวันละ 10.000 กีบ หรือ 40 บาท เพื่อเดินทางสู่ “ดอนคอน” และ “ตาดหลี่ผี” อันเลื่องชื่อ

 

 

 

 

“ดอนคอน” 1 ใน “มหานทีสี่พันดอน” บน “น้ำของ” ในช่วงสงครามอินโดจีน ถูกฝรั่งเศสยึดครอง เพื่อทำเป็นสถานที่พักขนถ่ายสินค้า และขนส่งผ่านท่าเรือ และทางรถไฟ

มีหลักฐานที่ยังหลงเหลือ ทั้งสะพานข้าม ทางรถไฟ และหัวรถจักรไอน้ำ

คณะของเรา และเพื่อนหญิงต่างชาติชาวสวิสฯ “สเตฟานี” ที่เพิ่งรู้จักกัน แต่มิตรภาพเชื่อมเราเข้าด้วยกัน โดยไม่มีช่องว่างใด ๆ ร่วมปั่น “ลดถีบ” เป็นขบวนตามกันไป

 

 

 

 

ระหว่างรายทางเวลาเดินไปช้า ๆ เราหยุดแวะบันทึกภาพ ผ่านความทรงจำและภาพถ่าย

“ลดถีบ” โขยกเขยกกระเด้งกระดอน นำเราผ่านเส้นทางดินลูกรังละเอียดผสมกับหินใหญ่น้อย เหงื่อที่โซมร่างไม่ได้ทำให้เราท้อ หากแต่คือความสนุกสนาน ต่อการเดินทางไกลหลายกม.

ข้างหน้าเราคือ “ตาดหลี่ผี” หรือ “ตาดสัมพะมิตร” น้ำตกจากสายน้ำธรรมชาติ ที่ไหลถาโถมผ่านเกาะ แก่ง โขดหิน แล้วตกลงมาด้วยกำลังแรง แตกเป็นละอองปุยขาวอณูละเอียด

“หลี่” คือ “เครื่องมือหาปลา” หรือ “ที่ดักปลา” ภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่ใช้งานได้ทีละ 2 ปี

ผี” คือ “ศพคนตาย” ที่ไหลผ่านกระแสน้ำมาติดใน “หลี่” จนเป็นเรื่องราวและเรื่องเล่าในอดีต

“หลี่ผี” วันนี้ ไม่ต่างอะไรกับ “ประติมากรรม” ที่ธรรมชาติสลักเสลาอย่างตั้งใจ

 

 

สายน้ำที่พรั่งพรูกระเซ็นเป็นละอองเฉิดฉาย กับหาดทรายละเอียด เย้ายวนใจจนเราและนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อย อดใจไม่ไหว ที่จะลงไปสัมผัสสายน้ำเย็นฉ่ำ

ชีวิตง่ายดายแค่นี้เอง ถ้าเราเลือกที่จะให้ชีวิตดำเนินไปง่าย ๆ และนี่ก็คงคล้ายกันกับมิตรภาพง่าย ๆ แต่จริงใจ ของ “ป้าดำ” แม่หญิงลาวเจ้าของร้านอาหารในสุดหลังสุดท้าย

เราจาก “หลี่ผี” ด้วยการบรรทุกความทรงจำเพียบแปล้ และเสียงทักทาย “สะบายดี” ไม่ขาดระยะ พร้อมกับ “คำเชิญชวน” ให้ร่วมกัน “เคาท์ดาวน์” ส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่

นี่เป็นประเพณีในทุก ๆ ปี ที่บริเวณหาดทรายริม “น้ำของ” ติดกับ “เฮือนคำฟอง”

และคืนนี้ มิตรภาพกับเสียงหัวเราะ ก็อบอวลข้ามปีโดยไม่มีเส้นแบ่งของภาษา ก่อนที่ราตรีจะจากลา

 

 

"ทอดเงาโดยเงียบงัน
เหลือตื้นตันให้ตักตวง
เก็บกักเพียงเปล่ากลวง
ปิดฟ้ากว้างระหว่างกัน

 

เช้าแรกของปีใหม่ วันที่ 4 ณ “ลาวใต้” เรารวมถึง “สเตฟานี” อำลา “ดอนเดด” พร้อมกับคำว่า “โซกดีเน้อ” และสายตาอาลัย ทั้งจากเราและจากเขา

เราย้อนเส้นทางสู่ “ปากเซ” เพื่อไปพักที่ “โรงแรมลานคำ” อันเป็นที่ตั้งของ “เฝอลานคำ” ที่ลือเลื่อง

และเราก็ยังมีร้านอาหารแบบง่าย ๆ ริมน้ำของ กับบรรยากาศยามเย็น ที่ดวงตะวันกลมโตค่อย ๆ ตกช้า ๆ จนลับตา โดยมีเมนูขึ้นชื่อ อย่าง “พันปลา” และ “ไส้ยัดไข่” รออยู่

 

 

 

ก่อนที่ราตรีที่ “ปากเซ” จะเงียบสงบ คล้ายกับเมืองที่หลับไหล อย่างไร้เดียงสาในพริบตา

 

 

เช้าวันที่ 5 “ลดจัก” เวฟ 100 ค่าเช่าเหมาวัน เจ็ดสิบห้าพันกีบ หรือประมาณ 250 บาท ตั้งขบวนเรียงแถวตามกันไป จุดหมายแรกคือ “ตาดเยือง” หรือ “ตาดเยื้อง”

ทางหลวงหมายเลข 23 หลัก 40 พาเราเข้าสู่ปากทางถนนลาดชัน กับดินลูกรังและก้อนหิน

“ตาด” คือ “น้ำตก” ส่วน “เยือง” หรือ “เยื้อง” คือ “เลียงผา”

เราเสียค่าเข้าคนละ 5 พันกีบ แล้วก็เดินลงบันไดลาดและชันมาก สู่พื้นล่างที่ตั้งของน้ำตก เพื่อหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง เมื่อเห็นสายน้ำตกกระเซ็น เป็นละอองต้องแสงสีทองจากตะวันเจิดจ้า

ม่านน้ำเรียงชั้น ซ้อนภาพให้ตาเห็น เพื่อส่งสู่หัวใจพองโต ด้วยความสุขอย่างบอกไม่ถูก

จากนั้น เราก็ย้อนมาที่หลัก 38 มุ่งสู่ “ตาดฟาน” จาก “ตาดเลียงผา” สู่ “ตาดเก้ง” หรือที่คนลาวเรียกว่า “น้ำตกหัวดงสาว” สูงถึง 120 เมตร ซึ่งถือว่า สูงที่สุดของลาว

 

 

น้ำ 2 สายไหลสู่แอ่งกระทะมหึมา งดงามจนถูกใช้เป็นฉากเปิด ของหนังฮอลลีวู้ด เรื่อง “จูราสิคปาร์ค”

ไกด์แม่หญิงลาว ที่มากับนักท่องเที่ยวอีกคณะหนึ่ง แอบกระซิบว่า ถ้าจะสัมผัสความงามอย่างที่สุด ก็ต้องเดินเท้ากว่า 5 กม. ลงไปกางเต๊นท์ค้างแรม เพื่อชมความยิ่งใหญ่แบบใกล้ชิด

เสียดายที่เวลาเดินช้า ๆ ของเราใกล้จะหมดลง ขณะที่ยังมี “ตาดถ้ำจำปี” ที่อยู่คนละฟากถนนรออยู่

 

 

 

“ตาดถ้ำจำปี” มีทางลง 2 แบบ คือ “ทางลงบันได” ที่ทั้งสูงและชัน ดูไม่แข็งแรงแต่แข็งแรง กับ “ทางย่างทำมะดา” หรือทางเดินเท้าธรรมดา อ้อมไปอีกเส้นหนึ่ง

แต่ไม่ว่าทางไหน ก็ไปถึงม่านน้ำตกที่สวยงามราวม่านฟ้า กับละอองน้ำล้อแสง จนเป็นสีรุ้งหน้าถ้ำ

นี่ยังไม่รวมถึงมนต์เสน่ห์จากการ “ซ้อนหิน” และ “แพลาก” ที่ใช้มือสาวดึงไป จนถึงบริเวณหน้าน้ำตก

 

 

 

 

 

 

สายน้ำเย็นเฉียบ มิตรภาพเย็นฉ่ำ เวลาเดินช้า ชีวิตเดินช้า ทว่า ! สงบ ง่าย และงามจริง ๆ

 

"คล้อยตกตะวันตก
ตะวันต่ำสุดทางตัน
อีกวันแล้วอีกวัน
อีกความหวังแห่งเยาว์วัย

 

5 วันที่ “ลาวใต้” เข็มนาฬิกาแห่งกาลเวลาหมุนเวียนตามปกติ ขณะที่เข็มนาฬิกาแห่งชีวิตหมุนช้าลง

 

 

 

อาจบางที ชีวิตก็แค่เรื่องง่าย ๆ ให้ชีวิตเดินช้า ๆ ไม่ต้องรีบเร่ง ร้อนรน และทุรนทุราย

แท้แล้วคำตอบของชีวิต อาจไม่ได้อยู่ไกลเกินคว้าไขว่ แต่อยู่ใกล้ที่หัวใจของเรานี่เอง...

 

 

ออนอาร์ต / roythao@yahoo.com

 

//........................